วันที่ 22 ม.ค. ร.ต.อ.สิริชัย สีนิล รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุรถชนพระสงฆ์เสียชีวิต บนถนนสายเอเชีย (ขาเข้ากรุงเทพฯ) หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุขโข ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง แพทย์เวรโรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง
ที่เกิดเหตุพบศพ พระเดช กิจวิบูลย์ อายุ 75 ปี พระลูกวัดมธุรสติยาราม นอนมรณภาพอยู่ในสภาพร่างกายแหลกเหลว บิดงอ ใกล้กันพบย่ามและบาตรพระ กระเด็นอยู่ในที่เกิดเหตุ ห่างกัน 50 เมตร พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา ทะเบียน ฒว-1779 กรุงเทพฯ จอดอยู่ริมถนนในสภาพด้านหน้าแถบซ้ายมีร่องรอยการชนจนชิ้นส่วนแตกเสียหาย
จากการสอบถาม นายวัชรา แก้วมณี อายุ 43 ปี คนขับรถกระบะ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถออกจากจ.ตาก มุ่งหน้าจะกลับบ้านที่จ.นนทบุรี โดยขับมาในเลนขวา ถึงที่เกิดเหตุจู่ ๆ ก็เหตุพระรูปดังกล่าวได้วิ่งข้ามถนนมายังเลนของตน ซึ่งตนขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เบรกไม่ทันและพุ่งชนเข้าอย่างแรงเกิดเหตุเสียชีวิตดังกล่าว
นายวัชรา กล่าวต่อว่า ปกติตนจะใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ และจะคอยระมัดระวังอยู่เสมอเนื่องจากบริเวณนี้จะมีคนวิ่งข้ามถนนเป็นประจำ แต่วันนี้พระข้ามมาในระยะกระชั้นชิด ทำให้ตนเบรกไม่ทันจริงๆ ด้าน พระครูพิศาล คุณาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดมธุรสติยาราม กล่าวว่า พระเดชนั้น เป็นพระลูกวัดของตน ทุกๆเช้าจะเดินออกจากวัดเพื่อมารับบิณฑบาตรจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเมื่อก่อนก็จะใช้สะพานลอยข้ามถนน แต่เมื่อปีก่อนได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกที่บรรทุกรถแบคโฮมาได้ชนสะพานเสียหาย อาตมา พระในวัด และชาวบ้านในละแวกต่างได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องคอยข้ามถนนสายเอเชีย ซึ่งรถวิ่งผ่านตลอดทั้งวันทั้งคืนในปริมาณมาก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
พระครูพิศาล กล่าวต่อว่า ซึ่งอาตมาเคยวิงวอนและขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งซ่อมให้เสร็จ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย และสุดท้ายในวันนี้ก็เกิดเหตุจนได้ อาตมาไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้อีก เลยคิดว่าอาจจะชักชวนกันไปคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เพื่อให้เร่งแก้ไขโดยด่วน
ส่วน นส.จิราพร พันธุวงษ์ อายุ 39 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่ตนเตรียมกับข้าวจะรอใส่บาตรพระตามปกติทุกวัน ระหว่างยืนรอพระอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเหมือนรถทับอะไรแตกก็หันไปมอง ซึ่งตอนนั้นชาวบ้าน และพนักงานโรงงานต่างร้องโวยวายกัน ตนจึงวิ่งมาดูก็พบว่าพระถูกรถชนเสียชีวิตแล้ว
นส.จิรพร กล่าวต่อว่า ปกติบริเวณนี้จะมีสะพานลอยคนข้าม ซึ่งเมื่อก่อนประชาชนในละแวกไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน หนุ่มสาวโรงงาน หรือพระที่ออกบิณฑบาต จะใช้สะพานลอยคนข้าม แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุเมื่อต้นปีก่อน ทำให้ทุกคนต้องจำใจวิ่งข้ามถนน ซึ่งถือว่าเสี่ยงมากเนื่องจากรถเยอะ ขวักไขว่ ยิ่งพระที่ออกบิณฑบาตรหลายรูปเป็นพระชรา ทำให้ชาวบ้านต่างหวั่นใจว่าจะเกิดเหตุร้าย
น.ส.จิรพร กล่าวอีกว่า กระทั่งวันนี้มาเกิดเหตุร้ายกับพระเดชซึ่งอายุมากถึง 75 ปี เข้าจนได้ ตนอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากให้เร่งรัดในการซ่อมแซมทำสะพานลอยคนข้ามให้เสร็จโดยเร็ว เพราะมันเนิ่นนานมามากแล้ว ก็เข้าใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้มาใช้สะพานกับชาวบ้านด้วยก็จริง แต่ชาวบ้านและพระนั้นเดือดร้อนมาก ถึงแม้ว่าศพนี้จะเป็นศพแรก แต่ก็อยากให้เป็นศพสุดท้าย ก็ฝากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
ด้าน ร.ต.อ.สิริชัย กล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รถกระบะคันดังกล่าวหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน จอดรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนศพพระเดชญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการมรณภาพ ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งบำเพ็ญกุศลยังวัดมธุรสต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสะพานลอยคนข้ามถนนดังกล่าวนั้น ได้เกิดเหตุรถเทรลเลอร์บรรทุกรถแบคโฮชนสะพานลอยพังมาหล่นทับรถยนต์ 2 คัน มีผู้บาดเจ็บ 2 คน เมื่อเดือน ก.พ. 2560 ซึ่งหลังเกิดเหตุมาจนถึงปัจจุบันสะพานลอยดังกล่าว ยังสร้างไม่เสร็จ ถึงแม้ว่าจะมีชาวบ้าน หรือพระที่ออกบิณฑบาตในละแวกวิงวอนและร้องขอให้เร่งซ่อมแซม ณ ปัจจุบันสะพานลอยก็ยังซ่อมแซมไม่เสร็จ
Cr. ข่าวสด