เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คุณยายวัย 92 ปี ชาว ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง กินแต่นมและไม่กินข้าวมานานถึง 25 ปีแล้ว แต่สุขภาพร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส เต่งตึง หูและความจำดีเยี่ยม ผิดธรรมชาติคนวัยเดียวกัน

วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 13 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เพื่อพบกับ คุณยายชม รอดคืน อายุ 92 ปี หลังทราบว่า คุณยายกินแต่นมที่ทำจากพืชเป็นอาหารหลัก โดยไม่กินข้าวมายาวนานประมาณ 25 ปี และไม่เคยเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล มีเพียงปวดเมื่อยแขนขา และเป็นความดันสูงในบางครั้ง แต่ไม่ต้องกินยาใดๆ โดยที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่า คุณยายพักอาศัยอยู่ภายในบ้านอีกหลังหนึ่งที่ปลูกอยู่ใกล้กับบ้านลูกๆ โดยคุณยายชม มีลูกทั้งหมด 9 คน เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน เหลือ 6 คน

ทั้งนี้ พบว่าคุณยายชม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดขาว ซึ่งเป็นชุดปกติที่ชอบแต่งขาวทุกวัน เนื่องจากเป็นคนธรรมะธัมโม เดิมชอบไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่างๆ โดยยังมีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส แม้จะปวดแข้งปวดขาตามประสาผู้สูงอายุ ขณะที่ดวงตาเริ่มฝ้าฟางจนมองเห็นเป็นเงาๆ มาได้ประมาณ 4-5 ปีแล้ว แต่ยังสามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ และหูยังได้ยินชัดเจน

นอกจากนั้น ผิวพรรณคุณยายชม ทั้งใบหน้าและแขนขายังสดใส ผิวตึงเรียบเนียนอมชมพู แก้มป่อง ผิดธรรมชาติของคนชราในวัยเดียวกันที่มักจะเหี่ยวย่น อย่างไรก็ตาม แม้คุณยายจะจบแค่ ป.4 แต่สามารถแต่งนิยายธรรมะที่เกี่ยวกับเรื่องบาปบุญคุณโทษไว้นับร้อยเรื่อง เพื่อเอาไว้แจกจ่ายให้ลูกหลาน รวมทั้งเพื่อนฝูงที่เดินทางไปปฏิบัติธรรมด้วยกันอ่านเพื่อเป็นคติสอนใจ แถมลายมือของคุณยายชม ยังสวยมาก เขียนตัวอักษรมีหัวทุกตัว และยังมีฝีมือในการวาดรูปประกอบเรื่องได้อย่างสวยงามด้วย

ซึ่งสมุดเขียนหนังสือของคุณยาย เป็นสมุดเขียนหนังสือของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาสมัยก่อน ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี โดยคุณยายเขียนที่หน้าปกสมุดเขียนที่ให้กรอกชั้นประถมปีที่.. ว่า “ไม่สิ้นสุด” แสดงให้เห็นว่าคุณยายชอบเรียน เขียนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก

คุณยายชม บอกว่า ตนเองเคยพบกับอาจารย์คนหนึ่งที่เดินทางมาจากเมืองจีนที่มาสอนเรื่องการปฏิบัติธรรม และหลังจากได้ปฏิบัติธรรม ก็พยายามเลิกกินเนื้อสัตว์ กินแต่อาหารที่ทำจากโปรตีน พืช และผัก กระทั่งต่อมาตนเองก็เลิกกินข้าวเด็ดขาดได้กว่า 20 ปีแล้ว กินแต่ผักได้ทุกชนิด กินเป็นมัดๆ เช่น ผักบุ้ง ต้มเผือก มัน และต้มผักทุกชนิดกินมาตลอด และกินนมที่ทำจากพืชเท่านั้น ไม่กินนมที่มาจากสัตว์ เช่น กินนมถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองผสมงาดำ และกินน้ำผลไม้สกัดผสมสมุนไพร

แต่ในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา หลังจากดวงตาเริ่มมองไม่เห็น ก็ไม่ได้ออกไปหาผักอีก จึงเลิกกินผัก หันมากินแต่นมจากพืชเป็นอาหารหลักเท่านั้น วันละ 3 มื้อ โดยกินร่วมกับขนมคุกกี้มื้อละ 1-2 ชิ้น จนเกิดความเคยชิน ไม่รู้สึกหิวแต่อย่างใด และมักถูกลูกๆ ดุ และขอร้องให้กินข้าว หรือกินอาหารอย่างอื่นบ้าง แต่ตนเองไม่กินเพราะระคายคอและรู้สึกคลื่นไส้เมื่อได้กลิ่น

ด้าน นางพรทรัพย์ ทรัพย์ส่ง อายุ 55 ปี ลูกสาว และนางลัดดาวัลย์ อินทร์พรม อายุ 53 ปี ลูกสะใภ้ กล่าวว่า เดิมทีก็กินข้าวเป็นปกติ แต่มาวันหนี่งคุณแม่รู้สึกไม่ชอบหมูจึงเลิกกินของคาว และเลิกกินข้าวตั้งแต่นั้นมารวมแล้วประมาณ 25 ปี จากนั้นมากินแต่อาหารเจ กินผัก และท้ายสุดกินแต่นมเป็นอาหารหลักแทน และระยะหลังชอบกินน้ำผลไม้ผสมสมุนไพรร่วมด้วย แต่ละเดือนจะต้องกินนมประมาณ 4 ลัง

โดยทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และ อสม.ต.อ่าวตง มาเยี่ยมคุณแม่เป็นประจำ ก็จะตรวจร่างกายพบว่า ร่างกายคุณแม่ปกติทุกอย่าง แข็งแรงดี แค่ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวบ้าง แต่ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาก่อน แต่พบมีความดันบ้างในบางครั้ง โดยหมอบอกว่าไม่ต้องกินยา ส่วนหูยังได้ยินเสียงดีเยี่ยม ยกเว้นตาที่เริ่มมองไม่เห็น แต่สามารถเดินช่วยเหลือตัวเองได้ และสุขภาพก็ดีกว่าคนชราวัยเดียวกัน ชอบเสียงเพลง ชอบเต้นรำ และเป็นคนสนุกสนาน