วันที่ 8 ก.พ.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า ขณะนี้ไทยจะได้วัคซีนโควิด 19 จากซิโนแวคเข้ามาก่อน จำนวน 2 ล้านโดส แบ่งเป็นเดือนก.พ. 2 แสนโดส, มี.ค. 8 แสนโดส และเม.ย. 1 ล้านโดส สำหรับการฉีดให้แรงงานข้ามชาตินั้น เรื่องค่าใช้จ่ายต้องมีการพูดคุยกับนายจ้างและกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ การจัดหาวัคซีนมีหลายบริษัทเข้ามาคุย อย่างสัปดาห์ที่แล้วมีจอนห์สัน แอนด์ จอนห์สัน เข้ามาหารือ แต่ยังไม่ทำสัญญา เพราะมีข้อตกลงที่ยังไม่อาจยอมรับ เช่น ต้องสั่งซื้อจำนวนมาก และกว่าจะได้ล็อตแรกก็ปลายไตรมาส 3 ซึ่งไปทับซ้อนกับของแอสตราเซนเนกา ถ้าจะสั่งต้องให้เกิดประโยชน์จริงๆ ซึ่งเรามีเวลาพิจารณา
นอกจากนี้วันที่ 9 ก.พ. จะหารือร่วมกับทางการรัสเซียด้วย ยืนยันว่าเราไม่ปิดกั้น พยายามโน้มน้าวให้มีการมาขึ้นทะเบียนในไทยให้ได้มากที่สุด เพื่อขายให้ทางเอกชนได้ เพราะอนาคตโรคโควิด-19 อาจจำเป็นต้องได้รับวัคซีนต่อเนื่อง
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการคาดการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน ตนขอยืนยันว่าเราไม่ได้ล่าช้า ไม่ได้ขี่ม้าตัวเดียว อนุกรรมการฯ ทำงานกันมานาน โดยไม่มีแรงกดดันทางการเมือง ผู้ที่มาร่วมเป็นคณะทำงานล้วนเป็นหมอ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จะหยิบใครมาทำงานก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะเอาคนใกล้ชิดนักการเมืองเข้ามาทำการที่คณะทำงานตัดสินใจไป ไม่ว่านายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีก็ไปเปลี่ยนการตัดสินใจไม่ได้
“คนที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ได้อ่านข่าวแล้วนำข้อมูลมาประมวลแล้วเสนอให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ขอให้สงบปากสงบคำ เพราะไม่เกิดประโยชน์ มีแต่บั่นทอนกำลังใจ การออกมาพูดของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง มีแต่ทำให้เกิดความสับสนอลหม่านในใจประชาชน เรื่องนี้ต้องให้กำลังใจกัน ไม่ใช่มาขู่ ประเทศไทยมีฝ่ายบริหารที่ทำงานอยู่แล้วถ้าจะให้ข่าวที่ย้อนแย้งกันไม่มีประโยชน์ เพราะท่านไม่ได้บริหารประเทศ เอาเวลาไปหาวิธีเพื่อที่จะได้เข้าบริหารประเทศดีกว่า” นายอนุทินกล่าว
นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับการจัดหาวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา ยังเป็นไปตามแผนคือเดือนมิ.ย.นี้ จำนวน 26 ล้านโดส ส่วนที่มีการหารือเพื่อให้ทางบริษัทจัดหาเข้ามาให้ก่อน 50,000 โดส นั้น แม้จะสะดุดเพราะปัญหาจากภายนอกประเทศที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ตนยังไม่ได้บอกว่าจะไม่ได้ในก.พ.นี้ เพียงแต่อยู่ระหว่างหารือกัน ซึ่งต้องขอเวลาในการทำงาน
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 เดือนนี้การผลิตวัคซีนในโลกไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาวัคซีนตามกลไกใดก็ตาม และถ้าดูตามแผนกระจายของประเทศต่างๆ ก็จะเห็นความจำกัดในการฉีดวัคซีนแค่ล้านเศษซึ่งถ้าอยากเห็นผลของวัคซีนในการควบคุมโรคต้องใช้วัคซีนจำนวนมาก การฉีด 1-2 ล้านโดสไม่มีประโยชน์ แต่จะมีประโยชน์สำหรับการควบคุมการระบาดในวงจำกัด ส่วนประเทศที่มีการระบาดในวงกว้างจะยังไม่ได้ผล
ทั้งนี้ การจัดหาวัคซีนไม่ได้ดูแค่เปอร์เซ็นต์ประสิทธิผลของวัคซีนอย่างเดียว แต่ต้องดูข้อมูลอื่นๆ ด้วย ต้องดูตามบริบทของประเทศ ดูเทคนิคการผลิตที่เหมาะสมกับประชากรด้วย โดยชนิดไวรัลเวคเตอร์ พิจารณาแล้วก็เหมาะสมกับคนไทย แต่ตอนนี้ก็ดูของบริษัทอื่นๆ ด้วย เช่น โนวาแวค ดังนั้น อย่าเพิ่งกังวลใจกับตัวเลขวัคซีน 61 ล้านโดสว่า จะไม่พอตนยืนยันว่า พอ ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ มีความผกผัน แปรผันของสถานการณ์ตลอดเวลา
ข้อมูลจาก Khaosod