เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2564)”  ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 07 กุมภาพันธ์ 2564

ในช่วงวันที่ 7- 9 กุมภาพันธ์ 2564 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะเริ่มมีผลกระทบบริเวณภาคเหนือในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีผลกระทบในวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2564

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหาย ที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้เนื่องจากจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  ในขณะที่มีลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน และแพร่

ในช่วงวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลกพิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่นกาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาhttp://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง