เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 5 ก.พ.2564 สื่อได้รับการร้องเรียนจาก แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว รายหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง

เนื่องจากเกิดปัญหาเงินอีกครั้งของโครงการดังกล่าวโอนให้ไม่ครบ จึงอยากทราบคำตอบเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตั้งอยู่ใกล้กับสี่แยกยืนยง และตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดย น.ส.ณทชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน ได้นำสลิปเงินที่ได้รับจากการโอนเงินมาเป็นหลักฐาน

พร้อมกล่าวว่า ปกติจะตรวจสอบทุกวัน ว่าเงินจะโอนเข้ามาตอนไหน เพราะขายของค่อนข้างยากในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ และยอมรับว่าโครงการนี้ช่วยพยุงผู้ประกอบการและประชาชน ต่างได้รับประโยชน์

“แต่เมื่อมาตรวจเช็กพบว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา วันนั้นมีคนใช้บริการคนละครึ่งของทางร้าน เป็น จำนวน 440 บาท ซึ่งปกติเงินครึ่งแรกจะเข้าบัญชีหลังเที่ยงคืน ไปจนถึงตอนเช้า

และเงินอีกครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นเงินส่วนของรัฐบาลที่จะโอนให้ ประมาณช่วงเย็นของวันเดียวกัน ปรากฏว่า เงินยอดแรกที่เข้ามาเมื่อเวลา 03.07 น.ของวัน 22 ม.ค.ที่ผ่านมา

เข้ามา 220 บาท จากยอดขายได้ 440 บาท ถือว่าตรง จากนั้นเมื่อเวลา 16.28 น.ของวันเดียวกัน กลับมียอมเงินโอนซึ่งเป็นเงินส่วนของรัฐบาล เข้ามาเพียง 140 บาท ขาดไป 80 บาท” น.ส.ณทชา กล่าว

น.ส.ณทชา กล่าวต่อว่า ตอนแรกคิดว่าน่าจะมีการผิดพลาดและน่าจะโอนเข้าซ้ำ แต่เมื่อรอมาหลายวัน ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ จึงมั่นใจว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องกับใคร

ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่า เงิน 80 บาทที่หายไป เป็นเรื่องเล็กสำหรับคนรวยทั่วไป แต่สำหรับยุคนี้ เงินจำนวนนี้จะกินข้าวได้ 2 มื้อ และสิ่งสำคัญคือ อยากรู้ว่า “เงินจำนวนนี้หายไปไหน”

และเกิดความผิดพลาดได้อย่างไร จึงขอแจ้งเตือนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ตรวจสอบบัญชีของตัวเองด้วย

น.ส.ณทชา กล่าวอีกว่า และอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ และหาแนวทางการแก้ไข เพราะหากแม่ค้าทั้งประเทศไทยได้รับเงินโอนที่ไม่ครบตามจำนวนเหมือนกันกับตนเอง จะเป็นเงินเท่าไหร่ และเงินจำนวนที่หายไปอยู่ตรงไหน