ศบค.เตรียมผ่อนคลายให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ และกิจการต่างๆ พร้อมเร่งช่วยเหลือพนักงานประจำ และลูกจ้างเงินเดือนน้อยที่ได้รับผลกระทบ

เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ทาง กทม.ได้เริ่มค้นหาผู้ป่วยในพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. โดยเฉพาะโรงงานที่มีแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เขตหนองแขม เขตบางบอน เขตบางแค และเขตจอมทอง ซึ่งกำหนดสุ่มตรวจทุก 3 เดือน โดยครั้งที่ 1 ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. ครั้งที่ 2 เดือนเม.ย.-พ.ค. และครั้งที่ 3 เดือน ส.ค.-ก.ย.

ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้สถานศึกษาทุกแห่งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบในพื้นที่สีแดง 28 จังหวัด เปิดการเรียนการสอนตามปกติ ยกเว้น จ.สมุทรสาคร เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ส่วน กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และปทุมธานี จะต้องมีนักเรียนในห้องเรียนไม่เกิน 25 คน หรือจัดการเรียนการสอนสลับวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป

กระทรวงมหาดไทยออกประกาศ ขยายกำหนดเวลาการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน ในทุกท้องที่จังหวัด และ กทม. จากภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่ต้องมีบัตร มีบัตรใหม่ หรือเปลี่ยนบัตร เป็นภายวันที่ 30 เม.ย. 2564 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 ม.ค.

จ.ชลบุรี ออกมาตรการผ่อนคลายเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ให้เปิดกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กิจการนวดเพื่อสุขภาพ นวดฝ่าเท้า นวดแผนโบราณ กิจการสปา กิจการเพื่อเสริมความงาม สถานเสริมความงาม คลินิกให้บริการเสริมความงาม สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายทุกประเภท

รวมถึง จ.ชัยนาท ผ่อนคลายบางมาตรการ ให้สถานที่เสี่ยง 17 ประเภท ได้แก่ สวนนกชัยนาท ศาสนสถานที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำ ห้วย หนอง โรง ตลาดนัด โรงยิม สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ ค่ายซ้อมมวย ร้านสักผิวหนัง ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านเกม ศูนย์พระเครื่อง โรงมหรสพ คลินิกเสริมความงาม การจัดประชุมสัมมนา การจัดงานบวช งานแต่ง งานประจำปี สามารถเปิดทำการ หรือทำกิจกรรมได้แล้ว แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

ส่วนสถานบริการ ผับ บาร์ ร้านคาราโอเกะ ให้มีการแสดงดนตรีสด และกิจกรรมร้องเพลงได้ ยกเว้นการจัดให้มีการเต้นรำ โดยให้เปิดทำการตามเวลาปกติที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่เกินเวลา 24.00 น. และขอความร่วมมือไม่รับประทานอาหารและเครื่องดื่มทุกประเภท โดยใช้ภาชนะที่มีโอกาสจับหรือใช้ร่วมกัน ขณะเดียวกันยังคงห้ามสนามชนไก่ รวมถึงการจัดซ้อมชนไก่ การจัดแข่งขันชกมวย และห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า หรือออกนอกพื้นที่

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมอุทยาน ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบ และเกิดความเสียหายต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของประชาชนรอบอุทยานแห่งชาติ และระบบเศรษฐกิจในท้องถิ่น และภาพรวม ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.