จับหนุ่มสมุทรสาครหนีโควิด ขโมยตู้บริจาคบนเกาะสมุย

7 มกราคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เกาะสมุย ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.บ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.ท.วรพงษ์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ สุดทองคง สว.สืบสวน สภ.เกาะสมุย ได้จับกุม นายวัชรพล หรือ เอก มารุ่งเรือง อายุ 41 ปี ชาว ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยเข้าจับกุมได้พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จับกุมได้ภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมของกลางตู้รับบริจาคจำนวน 3 ตู้ พร้อมด้วยเงินสดที่อยูู่ภายในตู้รับบริจาค ซึ่งเงินส่วนใหญ่เป็นแบงค์ยี่สิบบาทและเหรียญรวมเป็นเงินทั้งสิน 37,100 บาท

โดย พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกกงสภ.เกาะสมุย ได้ให้รายละเอียดในการเข้าจับกุมว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เกาะสมุย ได้รับการประสานจากกู้ภัย มูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุยว่า เกิดเหตุตู้บริจาคจำนวน 3 ตู้ ของมูลนิธิที่ตั้งอยู่ภายในจุดรับบริจาคซึ่งอยู่ในบริเวณวัดแจ้ง ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย ได้ถูกขโมยไปเมื่อกลางดึกของวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เกาะสมุย จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครเกาะสมุยที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ รอบเกาะสมุยก็พบชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยต์ สวมหมวกกันน็อค กำลังขับขี่ไปบนถนน โดยบริเวณเบาะหลังมีตู้รับบริจาค

 

เจ้าหน้าที่สืบสวน ได้ออกหาข่าวร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.บ่อผุด และได้เบาะแสจากพลเมืองดีว่าบุคคลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามหาพักอยู่ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ เยื้องกับปั๊มน้ำมันบางจาก บ้านปลายแหลม ตำบลบ่อผุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนผู้ต้องหารายนี้กำลังนั่งนับเงินที่ได้จากตู้บริจาค เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับหน้าถอดสีก่อนถูกควบคุมตัว กรณีดังกล่าวเมื่อเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายวัชรพล หรือเอก มารุ่งเรือง ได้ส่งตัวไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังโรงพยาบาลเกาะสมุย ซึ่งผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19

นายวัชรพล หรือ เอก มารุ่งเรือง ผู้ต้องหารายนี้ได้เล่าว่า ตนเองได้เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร หนีโควิดเพื่อมาบวช แต่เมื่อไปถึงวัดก็พบว่าพระมีชาวบ้านอยู่ด้วยจึงไม่กล้าเข้าไปขอพระบวช เพราะตนเองอยากอยู่แบบสงบ

ส่วนสาเหตุที่เข้าไปขโมยตู้รับบริจาคของมูลนิธิเพราะตนเองไม่มีเงิน เนื่องจากตนเองมีเงินติดตัวมาเกาะสมุยเพียง 2,000 บาท ต้องเช่าห้องเดือนละหนึ่งพันห้าร้อยบาท จากการสอบถามพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับดำเนินคดีมาแล้วถึง 7 ครั้ง และอยู่ระหว่างศาลมีคำสั่งรอลงอาญาอีก 2 ปี ซึ่งข้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องกับคดียาเสพติด สิ่งที่ได้กระทำลงไปตัวเองรู้สึกผิดเพราะเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินบริจาคของชาวบ้านทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีนายวัชรพล มารุ่งเรือง ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะจากนั้นได้นำตัวไปดำเนินคดีต่อไป