จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญที่เกิดในพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังมีชายรายหนึ่งเกิดอาการหลอน จนถืออาวุธเข้าปลิดชีพ ผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 6 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ล้อมจับคนร้ายอยู่หน้าร้านขายยารวมชัยเภสัช ถ.ประจักษ์ศิลปาคม ใกล้กับวงเวียนเฉลิมพระเกียรติ จ.อุดรธานี
จากการเปิดเผยของนายไพบูลย์ ฝันคอง อายุ 61 ปี ลุงของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่าวันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุไปเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมือง และนำรถจักรยานยนต์ของนายไพบูลย์ ไปด้วย หลังรู้ข่าวแทบไม่เชื่อว่าหลานจะกล้าทำ เพราะตลอดเวลาที่อยู้ด้วยกันมา 1 ปีช่วยทำงานไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนทำ ตอนแรกผู้ก่อเหตุอยู่กรุงเทพณ เพิ่งจะกลับมาอยู่กับตนได้ประมาณ 1 ปีกว่า และมาช่วยทำงานในฟาร์มหมู และทำงานทุกอย่าง ได้แก่ ให้อาหารหมู และทำสวน ซึ่งตนก็ให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 8,000 บาท และเพิ่งจะมาเพิ่มค่าข้าวให้อีก 1,000 บาท
โดยหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดความสงสัยในหมู่เจ้าหน้าที่และผู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมากเพราะ นายอิธิพล อิ่มผึ่ง หรือ ไอ้แจ๊ค อายุ 31 ปี ตรวจปัสสาวะไม่พบว่าว่ามีสารเสพติดผิดกฎหมายใดๆ ทั้งยังพูดจารู้เรื่องเป็นปกติไม่ได้มีปัญหาทางจิตเวชอย่างที่หลายคนสงสัย เมื่อเปิดหลังไอ้แจ๊คดูจึงได้รู้ว่ามีรอยสักหนุมานเก้ายอด ลงอักขระเลขยันต์จากหมอไสยศาสตร์เขมร จึงได้เชิญให้อาจารย์เต มาถอนวิชาอาคม
ทั้งนี้ในความเชื่อโบราณวันเสาร์ 5 วันที่เกิดเหตุถือเป็นวันแรง ผู้ที่เล่นของอาจมีอาการของขึ้นได้ หรืออาจทำผิดในวิชาอาคมมาจนโดนลงโทษ โดยเรื่องนี้มี นายหาญ รักษาจิตร์ หรือ เณรแอเจ้าของฉายาจอมขมังเวท เข้ามายืนยันอีกเสียงว่าวันเสาร์ที่ 5 ถือเป็นวันแรงผู้ที่มีวิชาอาคมหากทำไม่ดีไม่อยู่ในศีลธรรม อาจถูกของย้อนกลับเล่นงานตัวเองได้ โดยจะเกิดอาการเช่นมีผื่นขึ้นเต็มตัวและมักทำอะไรไปโดยขาดสติจนชีวิตวิบัติ
อย่างในกรณีของไอ้แจ๊คที่มีอาชีพเป็นลูกจ้างโรงเชือดหมูมา 1 ปี ถือว่าทำบาปเพราะทำกรรมให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต แม้ว่าจะเพื่อการดำรงชีพก็ตาม เมื่อถึงวันเสาร์ 5 ที่ถือเป็นวันแรง จึงอาจส่งผลให้ชีวิตไอ้แจ๊ควิบัติ บังเกิดเห็นภาพหลานต่างๆจนทำเรื่องไม่คาดฝันนำมาซึ่งเหตุสลดในครั้งนี้นั้นเอง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชื่อของแต่ละท่านด้วย
