เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “Torphong Wongsathienchai” ได้เผยแพร่ภาพภายในเกาะพีพีที่เหมือนเมืองร้าง พร้อมระบุข้อความว่า ภาพสดๆจาก เกาะพีพี ในวันที่หายใจรวยริน ลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่กำลังจะหมดไป โครงการของรัฐที่ส่งความช่วยเหลือมาไม่ถึง โครงการของรัฐที่จำเป็นต้องออกแบบวิธีการใช้ใหม่เพื่อให้รักษาคนป่วยที่กำลังใกล้ตาย “ร้านค้าชาวเกาะพีพี ไม่มีใครมาเหลียวแลเราเลยค่ะ” นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเปิดเผยด้วยว่า กำลังอยู่ท่าเรือพีพีค่ะ..ภูเก็ตก็เงียบค่ะ ตอนนี้ข้าวเหลือ50-60บาทแล้วค่ะ โรงแรมก็ถูกราคาโอเค แต่ค่ารถรับส่งยังโหดอยู่มากกกกกกกกกกก ที่พักห่างจากท่าเรือ 5โล คิด400

หมู่เกาะพีพีช่วงเวลานี้ สวยมาก น่าเที่ยวมาก สงบเหมือนตอนที่คนทั้งโลกไม่รู้จัก ย้อนยุคไป 30 ปี ทุกมุมเกาะ คือมุมส่วนตัว การจัดสรร การใช้ทรัพยากรต้องสร้างสมดุล ขอเสนอให้เปิดมาหยา แบบมีเงื่อนไข ต้องค้างคืนบนเกาะพีพีดอน จึงจะได้สิทธิเข้าอ่าวมาหยาและก่อนเข้า ต้องอบรมเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้ครีมกันแดด และต้องเข้าใจ “เที่ยวอย่างไรไม่ขัดใจปะการัง” จะเข้าอ่าวมาหยาได้ ต้องใช้เรือหางยาวชาวบ้านเกาะพีพีเท่านั้น จึงจะเข้าได้ เพื่อกระจายรายได้ให้ตัวเล็กๆที่กำลังจะหมดลมหายใจ โดยให้ชุมชนและอุทยานร่วมกันทำ ที่พัก ร้านค้า เรือหางยาว จะได้มีโอกาสรอด นี่คือหัวใจของการอนุรักษ์ ควบคู่ท่องเที่ยวยั่งยืน การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุด

ยกระดับการท่องเที่ยวใหม่ สอนและปรับปรุงการทำท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้วิกฤตินี้สร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศไทย การปิด ไม่ใช่หนทางในการแก้ปัญหา จะเกาะไหนก็ตาม รวมถึงตาชัย ถ้าเราสร้างการมีส่วนร่วม มีกฎกติการ่วมกัน และสร้างระบบการท่องเที่ยวใหม่ Advance Eco tourism / High Standard tourism นี่สิคือการสร้างโอกาสให้ประเทศไทย

นั่นคือหนทางรอดของเมืองท่องเที่ยวที่ประสบภัยโควิด และจะเป็นการเปลี่ยนประเทศไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน แต่ การเมืองตอนนี้ ดูเหมือนจะอ่อนแอ คนละฝักคนละฝ่าย ยิ่งมองยิ่งไร้แสงสว่าง โดยเฉพาะชาวบ้านพีพี ผู้ประกอบการ ที่กำลังรอวันตายอย่างไร้การเหลียวแล กาลครั้งหนึ่งคือพระเอกการท่องเที่ยว แต่วันนี้เหมือนศพไร้ญาติจริงๆ ครับ