เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ความคืบหน้ากรณีโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นำโดยนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เพื่อหาทางออกกรณีครูทำร้ายนักเรียน โดยช่วงแรกเกิดความวุ่นวายเมื่อมีการสกัดไม่ให้ผู้ปกครองเข้าร่วมหารือด้วย กระทั่งต่อมาจึงอนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าร่วมรับฟังข้อสรุปผลการประชุม

ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการ กช. แถลงผลการประชุม ว่า ที่ไม่ได้เชิญผู้ปกครองเข้าร่วมนั้น เพราะตนเข้ามาเพื่อขอข้อมูลจากโรงเรียนเพิ่มเติมเท่านั้น เพราะจากการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนมีปัญหาต้องแก้ไขหลายอย่าง เช่น การเก็บค่าธรรมเนียมการเรียน ตามระเบียบที่ สช. กำหนด โดยในระดับอนุบาลนั้น กำหนดอัตราการเก็บต่อปี ไม่เกิน 80,000 บาท ดังนั้นแต่ละภาคเรียน โรงเรียนสามารถเก็บได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อภาคเรียน โดยรวมทั้งค่าใช้จ่าย ค่าอาหารกลางวัน ค่าตรวจสุขภาพนักเรียน ค่าตรวจสารเสพติด ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าเรียนว่ายน้ำ ค่าเรียนดนตรี ค่าห้องเรียนปรับอากาศ ค่าเรียนเสริมนอกตำราเรียน ค่าเรียนเสริมพิเศษ เป็นต้น

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า รายการเหล่านี้กำหนดให้รวมค่าเทอม ไม่แยกเก็บต่างหาก ดังนั้นหากผู้ปกครองพบว่าโรงเรียนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเรียนเกิน 80,000 บาท ทางโรงเรียนรับปากจะคืนเงินส่วนเกินให้ผู้ปกครองทั้งหมด ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนโดยเฉพาะจำนวนนักเรียนต่อห้อง ที่ สช.กำหนดไว้ไม่เกิน 25 คนต่อห้อง แต่โรงเรียนกลับเปิดรับ 34 คนต่อห้อง จะต้องแก้ไขภายใน 15 วัน หากไม่แก้ไข ตนสามารถดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 กำหนดต่อไป

“นอกจากนี้ ผมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จำนวน 12 คน ตรวจสอบโรงเรียนเครือสารสาสน์ทั้ง 34 แห่ง ที่ สช.ได้รับการร้องเรียนด้วย โดยเริ่มจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์เป็นแห่งแรก และต่อไปนี้ สช.จะปิดช่องว่างทั้งหมด โดยมีมาตรการบังคับให้โรงเรียนเอกชนทุกแห่ง ติดประกาศพร้อมกับภาพถ่าย ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู วันหมดอายุ หน้าห้องเรียนทุกห้อง เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจในโรงเรียนเอกชนต่อไป และถ้าโรงเรียนจ้างคนที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาทำหน้าที่ครู มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท” นายอรรถพลกล่าว