เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

น.ส.กาญจนา ตั้งปกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายภาษี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 กันายน 2563  ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบหลักการ มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ และเพิ่มกำลังซื้อให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและประชาชนทั่วไป

สำหรับมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านการเห็นชอบในครั้งนี้ก็ คือ “โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ด้วยการเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากปกติอีก 500 บาทต่อคนต่อเดือนชั่วคราว

โดยกระทรวงการคลังจะนำเสนอโครงการนี้ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า วันที่ 22 กันยายน 2563 และจ่ายเงินเพิ่มเติม 500 บาทเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันส่งผลให้ผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเพิ่มเติมรวม 1,500 บาททุกคน

เงื่อนไข“บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รับเงิน 500 บาท

  • ใครมีสิทธิ์ได้รับเงินเพิ่มเติมในรอบนี้?

ผู้มีรายได้น้อย ที่ถือบัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งหมด 14 ล้านคนทั่วประเทศ

  • ได้เงินเพิ่มคนละเท่าไหร่?

โครงการดังกล่าว จะเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าให้ผู้ถือ บัตรคนจน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน หรือรวมแล้ว 1,500 บาท จากปกติผู้ถือบัตรฯ จะได้รับวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 200-300 บาทต่อเดือน โดยมีรายละเอียดดังนี้

กลุ่มที่ 1 รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จำนวน 3.6 ล้านคน ปกติได้รับวงเงินซื้อสินค้าอยู่ที่ 300 บาทต่อเดือน จะเพิ่มเป็น 800 บาทต่อเดือน

กลุ่มที่ 2 รายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี จำนวน 10.3 ล้านคน ปกติได้รับวงเงินซื้อสินค้าอยู่ที่ 200 บาทต่อเดือน จะเพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน

  • กดเป็นเงินสดได้ไหม?

ผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่สามารถกดวงเงิน 500 บาทดังกล่าวนำมาใช้เป็นเงินสดได้ และหากใช้เหลือ ก็ไม่สามารถทบเป็นวงเงินซื้อสินค้าในรอบเดือนถัดไป