สะเทือนใจ เด็กหญิงวัย 2 ขวบครึ่ง ถูกน้ำร้อนร้านหมูกระทะลวกตัว เป็นแผลเหวอะ เจ้าของร้านช่วยเหลือแค่ 5,000 บาท พร้อมท้าไปแจ้งความ ขู่สนิทกับผู้ว่าฯ
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความเล่าถึงเหตุการณ์ ขณะไปนั่งกินร้านหมูกะทะแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า “เหตุเกิดกับหลานวัย 2 ขวบครึ่ง ที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง เมื่อค่ำวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุที่เกิดคือเด็กร้านนำกระทะมาวางบนเตา แต่กระทะตั้งไม่เรียบ จึงทำให้กระทะเอียง จนน้ำซุปหกลงมาลวกเด็ก
ทางร้านเสนอให้เงินเพียง 5,000 บาท กับเหตุการที่เกิดขึ้นและให้จบเรื่องราวที่เกิดขึ้นไว้เพียงเท่านี้ (แต่ถ้าไม่จบก็ให้ไปแจ้งความเลย ทางคุณอาจจะไม่ใด้สักบาท #นี่คือคำพูดเจ้าของร้าน) โดยยังมีคำพูดตอนเจรจากัน! ทิ้งท้ายให้ไว้คิดเล่นๆด้วยว่า…#ผมไม่ค่อยมีเวลาว่าง เพราะต้องออกรอบตีกอล์ฟกับผู้ว่าเป็นประจำ เจอตอเลยเรา”
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 27 ส.ค. นายวิเชียร วัลย์ดาว และนางวิไลพร นิลยัง ตายายของเด็ก ซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายหอย ปากทางเข้าตลาดระนองธานี ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง โดยนายวิเชียร เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค.ตนพร้อมด้วยภรรยา บุตรสาวบุตรเขยและหลานสาวไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง ในอ.เมืองระนอง ระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารอยู่นั้น กระทะได้เอียงได้ให้พนักงานในร้านมาตั้งกระทะใหม่ ซึ่งเห็นแล้วว่านำฝาน้ำอัดลมมารองไว้ที่มุมกระทะ พอระหว่างนั่งทานได้ไม่ถึง 2 คำ กระทะเกิดพลิกคว่ำใส่หลานสาว จนได้รับบาดจ็บตามลำตัว จึงส่งตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลระนอง เพื่อรักษาแผลติดเชื้อ
ต่อมาได้เดินทางติดต่อไปทางร้านหมูกระทะ เพื่อขอให้ทานร้านร่วมรับผิดชอบในค่ารักษาพยาบาล โดยติดต่อกลับและเดินทางมาพบปะกันที่โรงพยาบาล มีการพูดคุยกันว่าจะให้ทางร้านรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งปกติเขาจะมาวันพรุ่งนี้ เพราะเพิ่งไปออกรอบกอล์ฟมากับผู้ว่ามาเพิ่งเสร็จ จึงเข้ามาดูน้องก่อน และมีเงินสดติดมาไม่มาก ขอช่วยค่ารักษาพยาบาล 2,000 บาท ต่อมามีการต่อรองและเจ้าของร้านจะชดใช้ให้ 5,000 บาท และไปขอรับได้ที่ร้านหมูกระทะ ซึ่งตนขอมาปรึกษาทางบ้านก่อน โดยทางบ้านไม่ขอรับเงิน 5,000 บาท และไปแจ้งในเช้าเมื่อวานที่ผ่านมาว่าไม่ขอรับ เพราะไม่พอกับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล ก่อนเจ้าของร้านกล่าวว่า งั้นคุณไปแจ้งความเอาเลย คุณอาจจะไม่ได้สักบาท จึงตัดสินโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพราะอึดอัดใจและสงสารหลาน
ด้านนายอุดม ปัญจศุภรักษ์ เจ้าของร้านหมูกระทะ กล่าวว่า ก่อนหน้าได้ตกลงกันช่วยค่ารักษาพยาบาลเด็ก 5,000 บาท แต่ต่อมามาบอกว่าไม่ขอรับภายหลังไปปรึกษากับทางบ้านมา ซึ่งในครั้งแรกอีกฝ่ายไม่ได้เรียกเป็นจำนวนเงิน แล้วแต่จะช่วย ซึ่งตนเห็นเด็กแล้วยังสงสาร ถามว่าถ้าช่วยค่าห้องพักพยาบาล ตนจึงช่วย 5,000 บาทจะไหวหรือไม่ ซึ่งครั้งแรกนึกว่าจะโอเคแล้ว พอมาวันนี้ยังตกลงกันไม่ได้เลยเดินทางมาไกล่เกลี่ยที่โรงพัก สภ.เมืองระนอง ซึ่งก็ยินดีที่จะช่วยชดใช้ให้ แต่บางครั้งนำเรื่องราวไปลงในสื่อออนไลน์บางคำก็เกินไป
ส่วนคำพูดว่าเพิ่งตีกอล์ฟเลิกจากก๊วนผู้ว่าฯ ขอปฎิเสธ เพราะเพียงพูดว่าเพิ่งไปตีกอล์ฟกับนายมา ซึ่งสรรพนามในก๊วนจะเรียกทุกคนที่มาตีกอล์ฟว่านาย เช่นรับนายหรือยังหรือรับนายคนนี้หรือยัง ตนไม่ได้ข่มขู่ อันนี้คือคำพูดที่เกินไป ซึ่งท่านผู้ว่าก็ไม่รู้เรื่องเดี๋ยวจะมาเล่นเราอีก และก็ไม่รู้จักผู้ว่า ท่านก็ไม่เคยมาเล่นกอล์ฟ แล้วจะไปข่มขู่ทำไม อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกัน หากเป็นการเข้าใจผิดในสังคมก็ขอโทษ อาจจะสื่อสารกันผิด ส่วนการต่อรองค่ารักษาพยาบาลก็จะมาคุยตกลงกัน
ต่อมาคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้เดินทางมาไกล่เกลี่ยกับร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ยาจาติ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองระนอง ผลทั้งคู่ตกลงกันด้วยดี และได้ลงนามในข้อบันทึกการตกลงชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยนายอุดม เจ้าของร้านหมูกระทะ ยินยอมชดใช้ 40,000 บาท เพื่อช่วยดูแลอาการเจ็บป่วย