เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นนทบุรี นำผู้ต้องหาข่มขืนเด็กอายุ 11 ปีทำแผนสารภาพดูหนังโป๊เกิดอารมณ์ทางเพศ

จากกรณีที่ น.ส.สมควร อายุ 44 ปี อาชีพ รปภ.โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งตั้งอยู่ด้าน ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี โดยนางสาวสมควร พักอยู่กับสามีใหม่และบุตรสาววัย 11 ปี ที่ห้องแบ่งให้เช่าภายในหมู่บ้านเสริมสุขนครซอยวัดกู้ ถนนสุขาประชาสรร ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และบุตรสาวคือ ดญ.หทัยทิพย์ มณีรัตน์ หรือ น้องโบวี่ อายุ 11 ขวบ ถูกนายเอ๋ อายุ 33 ปี อาชีพตอกเสาเข็ม เพื่อนข้างห้องติดกันใช้อุบายล่อลวงให้เข้าไปช่วยจับหนูในห้องของนายเอ๋ ก่อนใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ขณะตนเองและสามีออกไปทำงาน มีเพียงบุตรสาวอยู่ห้องเพียงคนเดียว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบตัวนายวันชัยไว้ได้ขณะพาภรรยาย้อนกลับมาเก็บเสื้อผ้าที่ห้องพัก โดยกล่าวหาว่า “พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่ออนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นัั้นจะยินยอมก็ตาม และ กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีตน ”

ความคืบหน้าในเรื่องนี้นั้น เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ส.ค.63 พ.ต.อ.พงศจักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด  พ.ต.ท.พรรษา จิวรรักษ์ สว.สส. พร้อมกำลังชุดสืบสวนปราบปรามกว่า 20 นาย ควบคุมตัวนายวันชัย สุพันจิตร  อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็กหญิงวัย 11 ปี ไปยังห้องเช่าที่เกิดเหตุหน้าหมู่บ้านเสริมสุขนคร ต.บางพูดอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยจุดที่ทำแผนเป็นห้องของนายวันชัยที่พักอยู่กับภรรยา และพบว่ามีการเลี้ยงหนูตะเพาไว้ในกรง

การทำแผนประกอบคำรับสารภาพนายวันชัยเล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองนั่งดูหนังโป๊ในห้องจนเกิดอารมณ์ ประกอบกับภรรยาออกไปทำงาน  เห็นน้องโบวี่ซึ่งรูปร่างอวบวิ่งเล่นอยู่หน้าห้องจึงออกอุบายให้เข้ามาเล่นกับหนูตะเพาที่ตนเลี้ยงไว้ในกรง เมื่อเด็กเข้ามาในห้องจึงใช้กำลังจับขึงพืดนอนกับพื้นห้องก่อนข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ โดยนายวันชัยยังสารภาพอีกว่าก่อนหน้านี้ก็เคยกระทำกับน้องโบวี่มาแล้วครั้งหนึ่ง

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นและนำตัวลงมาจากห้องเช่า นางสมควร มารดาเด็กผู้เสียหายและญาติๆ รวมทั้งชาวบ้านที่มามุงดูกลุ่มใหญ่ได้ตรงเข้าไปด่าทอและจะพยายามทำร้ายนายวันชัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันตัวและนำขึ้นรถตู้ทันที ซึ่งนางสมควรเองได้ยกมือไหว้ขอบคุณ พ.ต.อ.พงศจักร ปรีชาการุณพงศ์ผกก.สภ.ปากเกร็ด ที่ตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็วและกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ตนได้ลาออกจากอาชีพ รปภ.แล้วและจะมาดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิดเพื่อให้กำลังใจ อีกทั้งอาจจะกลับบ้านที่จังหวัดสกลนครไปรับจ้างทำงานเพราะลูกสาวเองก็อับอายคนแถวนี้  ตอนนี้เป็นห่วงลูกมากๆ  ต่อไปจะดูแลเขาอย่างใกล้ชิดอยากให้ผู้ต้องหาถูกลงโทษประหารชีวิตไปเลย