“ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ชุมนุมเต็มลานพญานาค แกนนำทยอยปราศรัย ขณะมีตัวแทนสถานทูตเยอรมนีเข้ามาสังเกตการณ์ ไฮไลต์ ขอทุกคนเปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือ และชูสามนิ้ว
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ส.ค. 2563 กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” บริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีกลุ่มนักเรียนอาชีวะ ร่วมดูแลความปลอดภัยผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีเยาวชน นิสิต นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมกว่าพันคน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์การชุมนุมครั้งนี้ด้วย
โดยก่อนถึงเวลานัดหมายชุมนุมนั้น ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักทำให้ผู้ชุมนุมต้องแยกย้ายเข้าที่ร่ม แต่ผู้ร่วมชุมนุมต่างได้นำข้อความเพื่อสื่อสารไปยังรัฐบาล อาทิ ยินดีต้อนรับ…ทั้งในและนอกเครื่องแบบ, ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส รวมถึงการแสดงดนตรีและกวีขับกล่อมจากวงสามัญชน พร้อมทั้งมีพระภิกษุได้โปรยน้ำมนต์ให้กับผู้ร่วมชุมนุม และการตั้งโต๊ะเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัดวงจรรัฐประหาร โดยภาคีเครือข่ายประชาชน
ขณะที่กลุ่มผู้จัดงานได้วางตัวผู้ปราศรัย ทั้งนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เป็นตัวแทนจากหลากหลายคณะ ไม่ว่าจะเป็นจากองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัยสหวิทยาการ ปรัชญา การเมือง เศรษฐศาสตร์, คณะวิศวกรรมศาสตร์, คณะนิติศาสตร์ รวมทั้งผู้ปราศรัยจากเครือข่ายเคลื่อนไหวทางการเมือง อาทิ กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท, กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต, แนวร่วมนิสิต มมส. เพื่อประชาธิปไตย, สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย, อานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, ภาณุพงศ์ จาดนอก ประธานกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงย้ำเตือนถึงข้อเรียกร้อง 3 ข้อไปยังรัฐบาล คือ ยุบสภา-แก้ไขรัฐธรรมนูญ-หยุดคุกคามประชาชน
อย่างไรก็ตาม การจัดชุมนุมครั้งนี้จัดอย่างเต็มรูปแบบของนักศึกษาเป็นครั้งแรก ทำให้บรรยากาศการชุมนุมแตกต่างจากม็อบนักศึกษาอื่นๆ ที่เคยจัดมามีการตั้งเวทีปราศรัย พร้อมเครื่องเสียงขนาดใหญ่ราว 15 เมตร มีจอโปรเจกเตอร์บนเวทีฉายข้อความสโลแกนของการชุมนุมว่า “เราไม่ต้องการปฏิรูปแต่เราต้องการปฏิวัติ” รอบพื้นที่ชุมนุมยังมีกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย อาชีวะปกป้องประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย และกลุ่มอาสาเทคโนปทุม มีทั้งอาชีวะศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน กว่า 50 คน มาเป็นการ์ดคอยรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมด้วย
นอกจากนี้ พิธีกรเวทียังเชิญชวนนักศึกษา ติดแฮชแท็กในโซเชียล #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน และ #ธรรมศาสตร์และการชุมนุมเพื่อให้เป็นกระแสอันดับหนึ่งบนโลกออนไลน์ ขณะที่บริเวณหลังเวทีปราศรัย มีตัวแทนจากสถานทูตเยอรมนี เดินทางเข้ามาสังเกตการณ์การชุมนุม โดยเข้าไปพูดคุยกับแกนนำคนสำคัญในการชุมนุม อาทิ นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำสนท. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โฆษก สนท. ไฮไลต์บนเวทีปราศรัยช่วงเย็น มีการขอให้ผู้ชุมนุมทุกคนร่วมกันเปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือ และชูสามนิ้ว เป็นการไว้อาลัยกับชาวไทย ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยหลายคนที่ถูกบังคับอุ้มหายในต่างประเทศ