เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ตำรวจนำหมายศาลตามรวบถึงลำพูน อดีตพนักงานสาวแบงก์ใหญ่ ยักยอกทรัพย์กว่า 20 ครั้ง-โดน ปปท.ชี้มูลตั้งแต่ปี 48

พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. กองบัญชาการสอบสวนกลาง สั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปราม กก.4 บก.ปทส. ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 5 ที่ จ.3/2563 ลงวันที่ 8 เมษายน 2563 หลังสืบทราบว่าได้หลบหนีไปอยู่ที่ บ้านหลังหนึ่งเขตตำบลเหมืองง่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. จึงไปตรวจสอบที่บ้านเป้าหมาย เมื่อบ่ายวานนี้(9 ส.ค.) แต่ไม่พบตัวนางสาววิญาดา อุ่นจิตร อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ตรวจสอบกับแหล่งข่าวพบว่ากำลังอยู่เขตหมู่ที่ 2 ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปจนพบและควบคุมตัวได้ที่สำนักงานบัญชีและธุรกิจแห่งหนึ่งใน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน และได้นำตัวผู้ถูกจับส่งศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 5 เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ผู้ต้องหารายนี้เป็นอดีตพนักงานธนาคารกรุงไทย (ขอสงวนชื่อสาขา) ได้ทำการ ทุจริตยักยอกเงินธนาคาร กว่า 20 ครั้ง เป็นเงินหลายล้านบาท (ธนาคารแจ้งขอสงวนยอดเงิน) ปปท.ชี้มีมูลมีความผิดตั้งแต่ พ.ศ.2548 ต่อมาผู้ต้องหาได้หลบหนีไป จนกระทั่งมีการออกตามหมายจับเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ความอาญา ฐานความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 และมาตรา 11

โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 ผู้ใดเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท มาตรา 11 ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ