เร่งล่าโจรหมอนทอง!พ่อค้าผลไม้เชียงใหม่สุดช้ำโดนคนร้ายทำทีเป็นลูกค้าหลอกเชิดทุเรียนหมอนทอง14ลูกใส่เต็มเข่ง มูลค่า3,800บาท หนีเข้ากลีบเมฆ เข้าแจ้งความตำรวจแล้วพบประวัติโชกโชน วอนติดตามจับตัวได้โดยเร็ว
จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์เรื่องราวพร้อมภาพคนร้ายที่ก่อเหตุทำทีเป็นลูกค้าขอซื้อทุเรียนหมอนทองจำนวน 14 ลูก มูลค่า 3,800 บาท จากคนขายที่เปิดร้านขายผลไม้อยู่บริเวณตลาดเชิงดอย ในตัวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมเข่งที่ใส่ทุเรียนเต็ม ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่าเจ้าของร้านขายผลไม้ผู้เสียหาย คือ นายสงกรานต์ จันทร์ศรี อายุ 50 ปี ซึ่งเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันที่ 21 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา โดยคนร้ายเป็นผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี อ้างตัวว่าทำงานอยู่ท่าทราย ไม่ห่างจากร้าน มาบอกว่าเจ้านายให้มาซื้อเพื่อส่งไปให้ลูกสาวและจะรีบเอาไปส่งที่ขนส่งเอกชน โดยขอเอาทุเรียนหมอนทองที่ขายอยู่กิโลกรัมละ140บาท จำนวน14ลูก คิดเป็นเงิน 3,800 บาท ไปก่อนและจะรีบนำเงินจากเจ้านายมาจ่ายให้ ซึ่งด้วยความไว้ใจและประมาทไป ทำให้หลงเชื่อยอมให้เอาทุเรียนไปก่อนโดยไม่จ่ายเงิน แต่ปรากฏว่าผ่านไปหลายชั่วโมงยังไม่มา จึงตัดสินใจไปตามที่ท่าทรายที่กล่าวอ้าง ปรากฏว่าเจ้าของท่าทรายไม่รู้เรื่องและไม่รู้จักผู้ชายคนดังกล่าว ทำให้รู้ตัวว่าถูกหลอกและรีบเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด
ทั้งนี้เมื่อไปที่แจ้งความปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพของผู้ชายคนหนึ่งให้ดู ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่หลอกเอาทุเรียนจากตัวเองไป พร้อมบอกว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้งทั้งในพื้นที่อำเภอสันกำแพง ,อำเภอสันทราย และอำเภอดอยสะเก็ด เมื่อเร็วๆ นี้ ก่อนที่จะมาก่อเหตุกับร้านตัวเอง โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 3 สัปดาห์ ผู้ชายคนนี้เคยมาที่ร้านพยายามจะขอซื้อทุเรียนในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตัวเองไม่ยอม กระทั่งต่อมายังแวะเวียนมาพูดคุยที่ร้านอีกหลายครั้งจนเริ่มคุ้นเคยและไว้ใจจนตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งเพิ่งมาทราบภายหลังว่า เพิ่งมีแม่ค้าทุเรียนที่อยู่หมู่บ้านถัดไปโดนหลอกก่อนหน้าตัวเอง ซึ่งยอมรับว่าเวลานี้เครียดพอสมควรเพราะทุเรียนที่ซื้อมาขายยังไม่ได้ทุนคืนเลยและน่าจะต้องขาดทุนแน่นอน อยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายได้โดยเร็วและมาชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ขณะที่นางกฤษดาพร จันทร์ศรี อายุ 48 ปี ภรรยานายสงกรานต์ บอกว่า วันที่เกิดเหตุตัวเองไม่ได้อยู่ที่ร้านด้วย แต่พอทราบเรื่องแล้วในฐานะคนค้าขายทำมาหากินแล้วยอมรับว่ารู้สึกเสียใจเช่นกัน ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องสามีได้ไปแจ้งความทราบว่าคนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งและกำลังเร่งไล่ล่าติดตามตัวอยู่ ซึ่งอยากให้จับได้โดยเร็วเพื่อรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเองและจะได้ไม่ไปก่อเหตุทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีก โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าเกิดขึ้นเพราะความใจดี จึงอยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้พ่อค้าแม่ค้าทุกคน รวมทั้งประชาชนทั่วไปว่าอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ
