เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

6 พฤษภาคม 2563 กองร้อยทหารพรานที่1201 ออกทำการลาดตะเวนและเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนบริเวณตลาดโรงเกลือ และด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว  ในการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมลาดตะเวนตรวจพื้นที่มาถึงบริเวณทางเข้าหมู่บ้านดงงู ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบชาย  1 คน หญิง 1 คน ท่าทางอิดโรยกำลังเดินเท้า มาตามถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าจะไปตลาดโรงเกลือ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่าทั้ง 2 คน เป็นชาวกัมพูชา ฝ่ายชายชื่อนายเชือน เม็ง อายุ 38 ปี ส่วนผู้หญิงชื่อนางนวม ซาเวือน อายุ 28 ปี ทั้ง 2 คนไม่มีเอกสารการเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันควบคุมตัวชาวเขมรทั้ง 2 คน มาสอบสวนที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้นโดยผ่านล่ามภาษากัมพูชา ชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนรับว่าเมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ตนทั้ง2คน ซึ่งเป็นญาติๆ กันได้เดินทางไปทำงานที่ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ที่ จ.ลพบุรี แต่ไม่รู้ว่าอยู่อำเภออะไร โดยลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยทางด้านด่านชายแดนบ้านแหลม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี โดยมีนายจ้างชาวไทยนำรถยนต์มารับไปทำงาน โดยได้ค่าจ้างแรงงานวันละ 150 บาท มีที่พักให้ แต่อาหารซื้อกินเอง ต่อมาจู่ๆประมาณวันที่ 25 เมษายน 2563 เจ้าของฟาร์มไก่ไข่ ได้สั่งปิดฟาร์มและเลิกจ้างพวกตน อ้างว่าโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ไม่มีไก่เข้าฟาร์ม ทำให้พวกตนไม่มีงานทำ อีกทั้งเงินก็หมดเพราะนายจ้างเลิกจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563

จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน 2563 เมื่อไม่มีจะกินแล้ว และไม่มีเงินติดตัว พวกตนจึงได้ตัดสินใจชักชวนกันเดินเท้าจากฟาร์มไก่ไข่ที่ จ.ลพบุรี เพื่อกลับบ้านเกิดที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยเดินเท้าและสอบถามทางเพื่อมาข้ามชายแดนที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ กับคนไทยมาตลอดทาง ค่ำไหนก็จะหลับนอนตามวัดข้างทาง บางวันก็นอนตามศาลาริมทาง บางวันมีคนไทยใจดีให้ข้าวให้น้ำกินประทังชีวิต

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ได้เดินเท้ามาถึงบริเวณวงเวียนปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จนเท้าพองจึงนั่งพักข้างถนนได้มีคนไทยใจดีสงสารนำข้าวและน้ำมาให้กิน และได้ให้เงินพวกตนคนละ 100 บาท แล้วฝากให้ขึ้นรถตู้โดยสารไม่ประจำทางจาก จ.ปราจีนบุรี มาลงที่ บขส.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นพวกตนก็เดินเท้าต่อมาอีก 6 กม.จนมาถึงทางเข้าหมู่บ้านดงงู ก็มีเจ้าหน้าที่ไทยมาตรวจพบและควบคุมตัวมาสอบสวนดังกล่าว

ต่อมา เมื่อรู้ว่าชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนถูกนายจ้างลอยแพ และต้องเดินเท้าถึง 8 วัน ยังไม่ได้กินข้าวจึงได้นำข้าว และน้ำมาให้ชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนได้กินตามหลักมนุษยธรรม โดยชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนเมื่อเห็นข้าวที่ทหารพรานนำมาให้ถึงกับดีใจคว้ามากินกันอย่างหิวกระหาย ปากก็พร่ำพูดเป็นภาษากัมพูชาและภาษาไทยว่า “ขอบคุณมากๆ”

หลังสอบสวนและทำประวัติเบื้องต้นแล้ว ได้นำชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว จากนั้นได้ประสานไปยังฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา แล้วนำชาวกัมพูชาทั้ง 2 คน ไปผลักดันกลับประเทศ ที่ช่องทางอนุโลม (จต.ส.38) บ้านโนนหมากมุ่น ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยก่อนส่งผลักดันกลับประเทศ ด้วยความสงสาร เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเงินกันคนละเล็กละน้อย แล้วมอบให้กับชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนได้ติดตัว และใช้ระหว่างเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ต่อไป