ในขณะที่ผู้คนมากมายต่างขังตัวเองอยู่ภายในบ้าน ท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 (covid 19) ก็ยังคงมีคนอีกหลายกลุ่มที่ต้องทำงานกันอย่างหนักในช่วงเวลานี้ นอกจากหมอและพยาบาลที่ต้องรับมือกับโรคร้าย เจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่าง ๆ ที่คอยดูแลความปลอดภัยและกวดขันเรื่องกฎระเบียบ คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องเผชิญความเสี่ยงและทำงานหนักไม่เว้นวัน ก็คือกลุ่มคนส่งของและพนักงานเดลิเวอรี่ทั้งหลาย
แน่นอนว่าการทำงานเป็นพนักงานเดลิเวอรี่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะเสี่ยงต่อโรคที่กำลังระบาดแล้ว ยังต้องเสี่ยงต่ออุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนน และเรื่องเลวร้ายก็ได้เกิดขึ้นกับพนักงานเดลี่เวอรี่รายหนึ่ง ที่ประสบเหตุถูกชนแล้วหนี ทำให้ต้องบาดเจ็บแถมยังสูญเสียรายได้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้
โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 เว็บไซต์เวิล์ดออฟบัซ รายงานว่า เหยื่อถูกชนแล้วหนีรายนี้ เป็นหญิงวัย 40 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานแกร็บฟู้ด ในประเทศสิงคโปร์ ในแต่ละวันเธอต้องทำงานส่งอาหารนานถึง 14-18 ชั่วโมง เพื่อให้มีเงินพอมาหาซื้ออาหาร เลี้ยงดูปากท้องของลูก ๆ ทั้ง 5 คน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะที่เธอกำลังขี่จักรยานไฟฟ้าไปส่งอาหารตามปกติ อยู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งขับพุ่งเข้ามาชนเธอจนล้ม ก่อนจะขับหนีไปทันที ทิ้งให้เธอนอนเจ็บอยู่เช่นนั้น ด้วยความที่เธอได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและมีอาการวิงเวียน ไม่สามารถเดินตรง ๆ ได้เหมือนปกติ ทำให้เธอต้องแอดมิตที่โรงพยาบาล เพื่อรอทำซีทีสแกนหลังจากนั้น 4 วัน และในช่วงเวลาที่เธอบาดเจ็บอยู่นี้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากจริง ๆ จากที่ต้องทำงานหนักเพื่อปากท้องของคนในบ้าน ตอนนี้เธอไม่สามารถทำงานได้
ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ จักรยานไฟฟ้าซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เธอต้องใช้ในการทำงาน พังเสียหายจากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งที่เธอยังผ่อนไม่หมด ยังคงต้องส่งค่างวด และยังต้องใช้เงินในการเลี้ยงดูลูกๆ จากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอตัดสินใจนำภาพและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเผยลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขอความช่วยเหลือจากใครก็ตามที่น่าจะเห็นเหตุการณ์ ให้เข้ามาแจ้งข้อมูลและช่วยเป็นพยานแก่เธอ ในการติดตามตัวและเอาผิดคนขับรถคู่กรณีได้ เพราะตอนนี้เธอได้รับความเดือดร้อนมากจริงๆ
