จากกรณีที่วานนี้ มีชายไทย 3 คน แอบลักลอบเข้าไปในพื้นป่า อุทยานแห่งชาติทับลาน ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา แล้วเกิดพลัดหลงกัน โดยชาย 2 คน ออกมาแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดไทยสามัคคี ให้ช่วยตามหานายจำรัส ภูมิแวงควง อายุ 45 ปี ชาว ต.ไทยสามัคคี ซึ่งพลัดหลงเข้าไปในป่า
กระทั่งเวลา 18.00 น. พบนายจำรัส ในสภาพเสียชีวิตนอนคว่ำหน้า ภายในป่าด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว อยู่ในสภาพขาขวาขาดหายไป ศีรษะเป็นแผลเปิดขนาดใหญ่ คาดว่าถูกสัตว์ป่ากัดกินเนื้อ กู้ภัยช่วยกันลำเลียงศพลงมาจากป่า ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงนำออกมาได้ก่อนส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียว ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที 31 มี.ค. นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า จากการสอบถามเพื่อนของผู้ตาย 2 คน ในเบื้องต้น อ้างว่าจะพากันเข้าไปในป่าเพื่อหาขี้ค้างคาวตามถ้ำต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติทับลาน แต่ระหว่างที่กำลังก่อไฟทำกับเข้าตอนเช้าได้ยินเสียงสัตว์ป่า เหมือนเสือโคร่งคำรามอยู่ละแวกใกล้เคียง นายจำรัส จึงได้เดินเข้าไปหาต้นตอของเสียง และหายไปเป็นเวลานานผิดสังเกต ทั้ง 2 คนจึงพากันออกตามหาแต่ก็ไม่เจอ จึงได้ออกมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
โดยปกติแล้วผู้ที่ลักลอบเข้าไปในป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ถือว่าผิดกฎหมาย และกรณีนี้น่าจะเป็นการลักลอบเข้าไปหาของกลางอะไรบางอย่าง เพราะที่ผ่านมาลักษณะนี้จะเป็นการเข้าไปชี้เป้าต้นพะยูง หรือต้นกฤษณา เพื่อเตรียมลักลอบตัดไปขาย ดังนั้นจึงต้องสอบสวนชายทั้ง 2 คนอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนลักษณะการเสียชีวิตของนายจำรัสนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะถูกเสือโคร่งกัด เพราะป่าแถบนั้นจะมีความอุดมสมบูรณ์มาก ทำให้มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะสัตว์ป่าล่าเนื้ออย่างเสือโคร่ง ซึ่งมีการพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงฝากเตือนผู้ที่จะลักลอบเข้าไปในป่าอุทยานแห่งชาติทับลานว่า
การลักลอบเข้าไปในป่าแห่งนี้เสี่ยงอันตรายมาก อีกทั้งยังเป็นการทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษหนักมาก จึงอย่าได้คิดลักลอบเข้าไปเด็ดขาด เพราะนอกจากจะมีโทษหนักแล้ว ยังอาจจะไปก่อไฟทำให้เกิดไฟป่า สร้างความเสียหายให้กับป่าไม้ของไทยอย่างมหาศาลอีกด้วย
Cr. ข่าวสด