ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน
.
ที่ประชุมเห็นชอบยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย. เพื่อไม่ให้มีการเดินทางในจังหวะเดียวกัน โดยจะย้ายไปหยุดโอกาสอื่นภายในปีนี้เมื่อสถานการณ์เบาบางลง
คณะแพทย์เกรงว่าจะมีคน เช่น จาก กทม. ติดโรคอย่างไม่รู้ตัวไปแพร่เชื้อให้ครอบครัวที่ต่างจังหวัด หรือไปแบบปกติแล้วติดเชื้อจากต่างจังหวัดกลับมาที่กทม. และยังมีความเสี่ยงการติดโรคระหว่างเดินทาง
.
คำสำคัญที่แพทย์บอกคือ ต้องช่วยกันลดความเสี่ยง ป้องกันบุตรหลานนำโควิดไปแพร่ให้กับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ซึ่งเป็นแล้วแพร่ระบาดในต่างจังหวัดจะยุ่งยากกว่า กทม.มาก
.
มาตรการป้องกันอื่นๆ ให้ปิด มหาวิทยาลัย ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งบางแห่งก็ได้หยุดไปแล้ว บางแห่งปรับการเรียนเป็นออนไลน์, โรงเรียน ทั้งของรัฐ เอกชน และนานาชาติ ซึ่งบางแห่งกำลังจะปิดเทอมอยู่แล้ว , สถานกวดวิชา ให้เลื่อนออกไปก่อนหรือคืนเงิน โดยทั้งหมดนี้ให้ปิดไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว น่าจะเริ่มได้ตั้งแต่วันพุธที่ 18 มี.ค.
ส่วนอีกกรณี คือ สถานที่ที่มีผู้ชุมนุมคราวละมากๆ ให้ปิดเป็นการชั่วคราวเพื่อตรวจสถานที่และไปหามาตรการป้องกัน เช่น สนามมวย ทั่วประเทศ , สนามกีฬาบางชนิด แม้แต่ โรงภาพยนตร์ ก็อาจจะเข้าเกณฑ์ แต่ขอไปดูรายละเอียดอีกที
.
ส่วนสถานที่อื่นๆ เช่น ร้านค้าหรือร้านอาหาร สามารถเปิดต่อไปได้ตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการในการป้องกัน เช่น ตรวจอุณหภูมิวัดไข้ มีหน้ากากอนามัย มีเจลล้างมือ อย่างไรก็ตาม ถ้าพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนจะมีการสั่งปิดเป็นรายๆ ไป
การสั่งทั้งหมดนี้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาตรา 35 (1) ซึ่งระบุว่าในกรณีมีเหตุอันสงสัยเพื่อระงับยับยั้งหรือป้องกันกันการติดต่อของโรคติดต่อ ในต่างจังหวัดให้เป็นอำนาจของผู้ว่าฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ใน กทม.ให้เป็นอำนาจผู้ว่า กทม.ที่จะสั่งให้หยุดกิจการ หรือสถานที่ใดๆ ก็ได้เป็นการชั่วคราว
.
ขณะเดียวจะมีการพิจารณาเป็นรายจังหวัด ในจังหวัดที่ไม่ปรากฎสถิติตัวเลขในการติดต่อ อาจจะยังไม่ประกาศ แต่ในอนาคตถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็ประกาศเพิ่มเติมได้
.
ทั้งนี้จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 17 มี.ค.63