ผบก.ภ.4 แถลงจับ กิ๊กหมอดูสาว ฆ่าตัดจู๋ พ.ต.ท. แฉนาทีโหด! ตัดเจ้าโลก-ทิ้งกองไฟ ทั้งที่ยังมีชีวิต สารภาพหวังฆ่าเมียให้ตายด้วย ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สอบปากคำ นายอมรลัก จิตรเกาะ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงและเฉือนอวัยวะเพศ พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ อายุ 57 ปี สวป.สภ.ร่องคำ เสียชีวิตภายในบ้านพักไม่มีเลขที่ บ้านน้อยพัฒนา ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปที่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา ก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุที่บ้านเรือนไทยน็อกดาวน์สองชั้นยกสูง ไม่มีเลขที่ บ้านน้อยพัฒนา ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนผู้ต้องให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่าพ.ต.ท.จำรัส เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้ตายมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับภรรยาและพยายามห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ทั้งนี้ หลังจากทำแผนเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องขังที่สภ.กมลาไสย พร้อมจัดกำลังเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะเกิดความเครียด
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถติดตามตามตัวผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ล่าสุดจากการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ พบว่าผู้ต้องหามีความคับแค้นใจอย่างมากที่พ.ต.ท.จำรัสไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับภรรยา
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวต่อว่า ซึ่งนายอมรลักให้การว่า ที่ผ่านมาคอยห้ามคอยตักเตือนทั้งสองคนแล้วก็ไม่ฟัง อีกทั้งยังหลอกให้เซ็นใบหย่าแก้เคล็ด ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ดื่มสุราย้อมใจจนเมาได้ที่ ก่อนจะไปก่อเหตุ และยังรับด้วยว่าตั้งใจจะฆ่าให้ตายทั้งสองคน แต่ฝ่ายภรรยาไหวตัวทันหนีไปได้ก่อน จึงทำให้ผู้ต้องหาฆ่าได้เพียงพ.ต.ท.จำรัสคนเดียว
“จากการสอบสวนรวมรวบพยานหลักฐานยังทราบอีกว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า โดยเริ่มจากการเข้ามาจุดไฟเผารถยนต์ก่อน เพื่อล่อให้ผู้เสียชีวิตออกมาจากที่พัก ซึ่งผู้ต้องหาหลบอยู่ใต้บันได ก่อนจะลงมือแทงและยื้อแย่งมีดกัน จากนั้นผู้ต้องหาได้กระหน่ำแทงแบบไม่ยั้ง จน พ.ต.ท.จำรัสแน่นิ่งไป แต่ยังไม่เสียชีวิต ก่อนที่ผู้ต้องหาจะใช้มีดเฉือนอวัยวะเพศจนขาดแล้วไปโยนทิ้งใส่กองไฟด้วยความสะใจ ทั้งที่ยังไม่เสียชีวิต ซึ่งจะทำให้เหยื่อได้รับความทรมาน” พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าว
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวด้วยว่า ซึ่งการกระทำดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสยเจ้าของคดี ได้ทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากเดิม 1 ข้อหา คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เป็น 3 ข้อหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย และ 3.วางเพลิงเผาทรัพย์ ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขัง ซึ่งอย่างช้าสุดในวันที่ 5 ก.พ.นี้ และจะทำการคัดค้านการประกันตัว
