เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยหนึ่ง สภ.เมืองลพบุรีว่า ได้เกิดเหตุมีสายข่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ อส. รุมทำร้ายร่างกายที่ศูนย์บำบัดผู้เสพยาเสพติด จนจะฆ่าตัวตายเมื่อเห็นภรรยาตนเองถูกกลุ่มอส.พาไปรุมโทรมโดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ แถมยังใช้ยาบ้า 2 เม็ดกรอกปากภรรยาเพื่อให้มีประวัติเสพยาอีกคนด้วย

นายธงชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาวชัยนาท พร้อมด้วย นางณี (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ชาวอ.ท่าวุ้ง ลพบุรี ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องที่ถูกทำร้ายและถูกล่วงละเมิด โดย นายธงชัย เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค.60 ตนได้ไปทำงานล่อซื้อยาเสพติดให้กับตำรวจหน่วยหนึ่ง สภ.ลพบุรี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและอส.จับในข้อหาเสพยาเสพติด ตนจึงยอมรับสารภาพว่าเคยเสพยา และได้เสพยาเสพติดมา

นายธงชัยกล่าวว่า จากนั้นตนถูกส่งตัวเพื่อนำไปบำบัดที่ศูนย์บำบัดยาเสพติดวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.กกโก อ.เมือง ลพบุรี โดยมีภรรยาอาศัยติดรถไปด้วย เนื่องจากมืดค่ำ และขี่จักรยานยนต์ไม่เป็น ขณะที่ทำประวัติก่อนบำบัด ได้มีตำรวจที่ตนทำงานให้มาหาเจ้าหน้าที่ อส.เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ปล่อยตัว เนื่องจากเห็นว่านายธงชัยยังทำงานให้ไม่เสร็จ และเมื่อเสร็จแล้วจะนำตัวมาให้ดังเดิม โดยมี อส.ที่คุ้นเคยกับ ตำรวจชุดนี้ได้อนุญาตให้ปล่อยตัวได้

นายธงชัยกล่าวว่า แต่กลับมี อส.บางนายที่ไม่ยอมให้ไป และยังกล่าวตำหนิตำรวจว่ามันเส้นใหญ่ขนาดไหน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวจึงบอกว่าหากทาง อส.ไม่อนุญาตก็ไม่เป็นไร ก็ทำตามขั้นตอนในการการบำบัดไป และได้เดินทางกลับ โดยมีภรรยานายธงชัย ขอนั่งอยู่ที่ศูนย์ฯ จนกว่าจะเช้าเพื่อที่จะได้เดินทางกลับบ้าน

นายธงชัยกล่าวต่อว่า หลังจากที่ตำรวจไปแล้ว ก็ได้ถูก อส.เรียกไปสอบสวน และเริ่มรุมซ้อมข้อหาเส้นใหญ่ ถูกลากตัวขึ้นไปกักขังไว้บนหอระฆังวัด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกภรรยาใช้มือถือบันทึกไว้ เมื่อ อส.เห็นได้มากระชากมือถือของภรรยาไป โดยนำซิมการ์ดออกไปจากเครื่อง แล้วนำตัวภรรยาขเข้าไปในศาลาชั้นล่างของวัด โดยที่ตนมองเห็นเหตุการณ์ และยังได้ตะโกนบอกภรรยาว่า ให้ช่วยเหลือตัวเอง ร้องให้เสียงดัง หากเขาทำอะไรให้วิ่งหนีไปหาพระ และแม่ชีที่จำวัดอยู่

ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ภรรยาตนออกมาในสภาพอิดโรย นั่งเหม่อลอยร้องไห้ตลอดเวลา ตนถามภรรยาว่าเป็นอะไร จึงทราบว่าภรรยาถูก อส. จำนวน 4 นายรุมโทรม เท่านั้นยังไม่พอ ยังเอายาบ้าจำนวน 2 เม็ดกรอกปากภรรยา เพื่อให้มีสารเสพติดในตัว และจะได้นำตัวส่งสถานบำบัดแห่งอื่น

ตนเสียใจมากได้ตัดสินใจใช้ผ้าพันคอสีส้มกับเชือกป้ายห้อยคอผูกโยงกับมือจับประตูภายในศาลาวัดหวังฆ่าตัวตาย และมารู้ตัวอีกทีใกล้รุ่งเช้าในสภาพเนื้อตัวเปียกปอน โดยมีภรรยาตนเองกอดตนอยู่ภายใน ซึ่งทราบว่ามีผู้ที่มาเห็นเหตุการณ์ และทำการช่วยเหลือตนเอง

นางณี เล่ากับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ไม่คิดมาก่อนว่าตนจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายขนาดนี้ ทำไมคนที่เป็นถึงเจ้าหน้าที่ ต้องมาทำกับตน มันป่าเถื่อนมาก มี อส.ถึง 4 คนรุมโทรมข่มขืนตน โดยไม่มีทางต่อสู่ขัดขืนแม้แต่น้อย เท่านั้นยังไม่พอยังเอายาบ้ามากรอกปากตน เพื่อให้มีสารเสพติดในตัวอีก ตนต้องตกอยู่ในอาการผวา ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาเปรียบกับความเลวร้ายที่ตนได้เจอ

นายธงชัยเล่าต่อว่า รุ่งเช้าตนและภรรยากลับถูกปล่อยตัว ทั้งที่ต้องทำการบำบัดตามขั้นตอนทั้งสิ้นจำนวน 12 วัน ก่อนปล่อยได้มีการสั่งกำชับห้ามพูดเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น จากนั้นตนได้มาอาศัยหลบอาศัยหลบนอนที่หน่วยตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี มีภรรยายังคงนั่งกัดฟันด้วยฤทธิ์ยาบ้า ตาขวาง เมื่อตำรวจมาเห็นจึงได้สอบถาม และเค้นความจริงจึงได้ยอมรับสารภาพทั้งหมด ถึงเรื่องที่ตนเองและภรรยาเจอมาเมื่อคืน ตำรวจได้ส่งตัวตนและภรรยาเพื่อทำการรักษาที่ รพ.พระนารายณ์มหาราช เพื่อที่จะขอให้แพทย์ ออกใบรับรองตนเองที่ถูกทำร้าย และร่องรอยการถูกข่มขืนของภรรยา จากนั้นได้พาตัวเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุวรรณศรี ร้อยเวร สภ.เมือง ลพบุรี ในค่ำวันที่ 13 ธ.ค. 60

ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ได้รับเรื่อง และนำไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และขอเวลาเพื่อทำการสืบสวน สอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยมีนายธงชัย และภรรยาได้สอบถามถึงการดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนของร้อยเวรมาตลอด โดยเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 60 ตนและภรรยาได้ไปชี้สถานที่เกิดเหตุ และชี้ตัว อส.ที่รุมทำร้ายตนเอง รุมโทรมภรรยา และสถานที่ตนพยายามจะผูกคอตาย

ทั้งนี้ ร.ต.อ.กิตติศักดิ์กำลังดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และจะขอให้ส่งตัวเจ้าหน้าที่ อส.ที่ถูกชี้ตัวมาเพื่อทำการสอบสวนทีละรายทุกราย แต่เนื่องจากกำลัง อส.มีน้อยซึ่งยังมีภารกิจที่จะต้องฝึกผู้บำบัดยาเสพติดถึง 238 ราย ซึ่งจะปิดการฝึกในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ รวมถึงบันทึกความเห็นของแพทย์ รพ.พระนารายณ์มหาราชที่ตนเองส่งสำนวนให้ไปแล้วเช่นกัน

ที่มา – khaosod