เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

บุกรวบพระครูรักษาการเจ้าอาวาสวัดดัง จ.สมุทรสาคร ลวงเณรน้อยล่วงละเมิดทางเพศเกือบทั้งวัด ซ้ำยังถ่ายภาพเก็บไว้ดู พบเหยื่ออายุตั้งแต่ 4-15 ปี เจ้าตัวปากแข็งอ้างถูกใส่ร้าย ขอให้การในชั้นศาล

วันที่ 25 ธันวาคม 2562 พล.ต.ต. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. ได้นำหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าจับกุมนายศักดิ์สิทธิ์ สนบ้านแพ้ว หรือ พระครูสังฆรักษ์ศักดิ์สิทธิ์ กิตติโก (พระอาจารย์ปู) อายุ 40 ปี อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสุวัฑฒนาราม-ทุ่งอินทรีย์ ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.451/2562 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี, พาผู้อื่นไปเพื่อการกระทำอนาจาร โดยใช้กลอุบายหลอกลวงหรือข่มขู่ประทุษร้าย ซึ่งเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดานหรือกระทำต่อศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการในลักษณะลามกอนาจาร

พล.ต.ต. วรวัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้มีสามเณรของทางวัด และผู้ปกครอง ได้ร้องเรียนผ่านชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดยกล่าวอ้างว่า ถูกเจ้าอาวาสกระทำอนาจารโดยการล่วงละเมิดทางเพศ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จึงได้ประสานตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เข้าตรวจสอบและร่วมสอบสวนเหยื่อผู้เสียหาย จนนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับพระครูสังฆรักษ์ศักดิ์สิทธิ์ กิตติโก

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้สืบทราบว่าพระครูสังฆรักษ์หรือนายศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นรักษาการเข้าอาวาสวัดดังกล่าว หรือเป็นผู้ดูแลวัด นั้น มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เสพเมถุน กระทำอนาจารต่อสามเณรที่มาบวชเรียนช่วงปิดภาคเรียน เด็กวัด โดยเรามีภาพหลักฐานยืนยันการกระทำผิดชัดเจน ประกอบกับคำให้การในเบื้องต้นของเด็กที่เป็นเหยื่อ ผู้ปกครอง แม่ชี นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวนยังทราบอีกว่า ในช่วงระหว่างที่ก่อเหตุพระครูสังฆรักษ์ จะทำการยึดโทรศัพท์มือถือของสามเณรและเด็กวัดทุกคน เพื่อป้องกันการแอบถ่ายหรือโทรศัพท์ไปบอกให้กับคนอื่นทราบ จนกระทั่งเหยื่อเริ่มทนพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว จึงได้แอบถ่ายภาพหลักฐานและแอบติดต่อกับผู้ปกครองจนมีการร้องเรียนและนำมาสู่การจับกุมตัวดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่าวัดดังกล่าวมีสามเณรทั้งหมด 19 รูป แบ่งเป็นสามเณรอายุต่ำกว่า 18 ปี 18 รูป อายุ 19 ปี 1 รูป และเด็กวัดอีกจำนวน 10 คน ซึ่งสามเณรที่อายุน้อยสุดในจำนวนนี้มีอายุเพียงแค่ 8 ขวบเท่านั้น โดยเบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยเหลือเยียวยาตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมกับเตรียมประสานไปยังสำนักพระพุทธศาสนา เพื่อให้ช่วยตรวจสอบกลุ่มสามเณรรูปอื่นๆ ที่เคยมาบวชเรียนอยู่ที่วัดดังกล่าวพ.ต.อ.อภิสัณฐ์ กล่าวว่า ขณะที่การตรวจสอบและตรวจค้นกุฏิต่างๆ ภายในวัดดังกล่าว พบโทรศัพท์มือของสามเณรที่ถูกเก็บไว้โดยพระครูสังฆรักษ์ จำนวนหลายเครื่อง พร้อมกับตรวจพบถุงยางอนามัยใช้แล้ว ที่บริเวณด้านหลังกุฏิพักของสามเณรตกอยู่ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับเชิญตัวพระครูสังฆรักษ์ไปทำการลาสิกขาจากความเป็นพระเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า สามเณรที่ตกเป็นเหยื่อมักถูกกระทำอนาจารในลักษณะวิตถาร ด้วยการถูกมัดมือมัดแขน ก่อนจะมีการร่วมเพศทางทวารหนัก บางครั้งก็ให้สามเณรร่วมเพศด้วยกันเองแล้วตัวเองก็นั่งดู หรือบางครั้งก็มีการชักชวนคนนอกเข้ามาร่วมเพศกับสามเณร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลใดบ้างที่ร่วมกระทำผิด จากการสอบปากคำพระครูสังฆรักษ์ ยังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง ตนบวชเรียนเป็นพระมานานกว่า 20 ปี ทำประโยชน์ให้กับวัดมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เบื้องต้นทางเข้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนรายละเอียดทางคดีนั้นจะมีการแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดอีกครั้งที่ บก.ปคม