จากกรณี กลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายชายวัยกลางคน เหตุเกิดในซอย ตม.สวนพริกไทย โดยชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งได้จับคนขับรถเก๋งล็อกเอาไว้ ส่วนชายสวมเสื้อสีดำอีกคนได้รัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ก่อนจะเตะซ้ำจนคนขับรถเก๋งล้มลงคล้ายหมดสติ
โดยพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากผู้เสียหายได้เดินทางไปตกลงเรื่องค่าจ้างของ พี่สะใภ้ ซึ่งเป็นชาวต่างด้าว โดยทำงานในร้านอาหารดังกล่าว แต่นายจ้างเบี้ยวจ่ายค่าแรงทำให้เดินทางไปเจรจาตกลงกัน หลังจากเดินทางออกมาจาก ตม. กลุ่มนายจ้างก็เข้ามารุมทำร้าย
โดย นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า พี่สาวแฟนตนทำงานที่นี่มาได้ 3 เดือนแล้ว ตอนแรกจะลงทุนให้ขายของ แต่พอดีแม่ไม่สบายจึงจะลาออกจากงานเพื่อไปดูแลแม่ โดยเดือนสุดท้าย เพราะแฟนตนไปไม่ได้เนื่องจากลูกยังเล็ก พี่สาวเลยไปลาออกจากงาน แต่นายจ้างบอกว่า ลาออกได้ แต่เงินไมได้ จะโอนให้สิ้นเดือน
จึงแจ้งว่า ไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยแล้ว นายจ้างจึงบอกว่า งั้นก็ไม่ต้องเอาซักบาท ตนจึงโทรไปคุยอยากรู้เรื่องเงิน ที่ไม่ได้ค่าแรง แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง จึงบอกว่า จะทำแบบของตน ตม.จึงเข้าไปตรวจ และจับคนในร้านไป ในส่วนที่แรงงานผิดกฎหมาย พร้อมปรับเงินเจ้าของร้าน
“พี่สาวแฟนทำงานไป 18 วันต้องได้ 5,400 บาท แต่นายจ้างให้มา 2,000 บาท เมื่อไปเจรจาก็ได้เงินมาครบ 5,400 บาท แต่เมื่อออกจาก ตม. ก็ขี่ จยย.มาปาดหน้า เอากระบะมาปิดท้าย เดินมาเปิดประตูให้ลงมาคุยกัน พร้อมกับบอกว่า ไปแจ้งความทำไม จากนั้น ก็เปิดฉากใส่เลย ผมไม่โกรธแต่น่าจะคุยกันดีๆ ก่อน ผมไม่ชอบเห็นความไม่ยุติธรรม ทำงานก็น่าจะได้เงิน”นายสมบัติ กล่าว
Cr. ข่าวสด