เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คุณหมอรพ.สิชล พบ “นิ่วกรด” นับพันเม็ดอยู่ในถุงน้ำดี ผ่าออกมาดูเหมือน “ชาไข่มุก” พร้อมแนะนำหากมีอาการ หรือสงสัยว่าจะมีนิ่ว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.โรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สำหรับรูปที่ตนโพสต์ลงเฟซบุ๊กนั้นอยากให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจประชาชน สำหรับสาเหตุนั้นไม่ใช่ เพราะผู้ป่วยไปกินชาไข่มุกแต่อย่างใด แต่ตนแค่เปรียบเปรยลักษณะของก้อนนิ่วคล้ายชาไข่มุกเท่านั้น ไม่ใช่เกิดจากไข่มุกแต่อย่างใด

สำหรับก้อนนิ่วของผู้ป่วยรายนี้ มีลักษณะเป็นนิ่วกรดแบบก้อนๆ ซึ่งผู้ป่วยเป็นชาย อายุ 60 ปี โดยหมอได้นับจำนวนก้อนนิ่วทั้งหมดแล้วนับไม่ไหว แต่หมอว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 1,000 ก้อนแน่นอน เพราะเยอะมากจนหมอขี้เกียจนับแล้ว

โดยก้อนนิ่วจำนวนมากขนาดนี้ทราบว่า สะสมมานานกว่า 5 ปี แล้ว แต่คนป่วยไม่แสดงอาการ เพิ่งมามีอาการปวดท้องระยะหลัง หมอพยายามเอาตัวนอนโรงพยาบาลแต่คนป่วยพยายามเลี่ยงบ่ายเบี่ยงไม่ยอม

จากการอัลตราซาวนด์ พบก้อนนิ่วจำนวนมากในถุงน้ำดี และนิ่วบางส่วนก็มาอุดในท่อน้ำดี ทำให้คนป่วยรายนี้มีอาการหนักมากตัวเหลือง ติดเชื้อในถุงน้ำดี และติดเชื้อในกระแสเลือดด้วย มีโอกาสเสียชีวิตก็ได้หากมาพบหมอช้า ล่าสุดหลังผ่าตัดเอาถุงน้ำดี และนิ่วในถุงน้ำดีออกแล้ว ผู้ป่วยรายนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ยังนอนพักรักษาในโรงพยาบาลสักระยะหนึ่ง

นพ.อารักษ์ กล่าวอีกว่า สาเหตุของนิ่วในถุงน้ำดีนั้นเกิดจากการตกผลึกของสารประกอบในน้ำดี 2 ชนิด ได้แก่ คอเลสเตอรอล และบิลิรูบิน นิ่วที่เกิดจากคอเลสเตอรอล (cholesterol gallstones) จะพบได้บ่อยกว่า และมีลักษณะเป็นก้อนสีขาว เหลือง หรือเขียว ในขณะที่นิ่วที่เกิดจากบิลิรูบิน (pigment gallstones) จะมีสีน้ำตาลหรือดำ

ดังนั้น ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี จึงได้แก่ ภาวะที่น้ำดีมีคอเลสเตอรอลมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากร่างกายมีคอเลสเตอรอลสูง ตับจึงขับคอเลสเตอรอลออกมาในน้ำดีมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือกล้ามเนื้อถุงน้ำดีไม่สามารถบีบตัวนำคอเลสเตอรอลออกมาได้ ทำให้มีคอเลสเตอรอลตกค้างอยู่

โดยภาวะที่น้ำดีมีบิลิรูบินมากเกินไป อาจเกิดจากโรคที่ทำให้ตับสร้างบิลิรูบินมาก เช่น โรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ หรือเกิดจากการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงจำนวนมาก เช่น ในภาวะโลหิตจาง หรือโรค G6PD เป็นต้น ภาวะที่น้ำดีมีความเข้มข้นมาก ทำให้คอเลสเตอรอลและบิลิรูบิน มีโอกาสตกตะกอนและรวมตัวกับสารอื่นๆ ในน้ำดีกลายเป็นก้อนนิ่วได้สูง

สำหรับผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดี อาจไม่มีอาการเลย หรือมีอาการบางอย่าง ดังต่อไปนี้ โดยไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอาการ ได้แก่

– ท้องอืด
– แน่นท้องหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก
– ปวดท้องใต้ชายโครงขวาเป็นครั้งคราว
– ปวดท้องรุนแรง และปวดร้าวไปถึงสะบักด้านขวา
– ไข้สูงเฉียบพลัน ถ้ามีการอักเสบของถุงน้ำดีอย่างเฉียบพลัน
– ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดนิ่ว

1. ความอ้วน คนอ้วนจะเกิดนิ่วที่มีคอเลสเตอรอล เนื่องจากการบีบตัวของถุงน้ำดีลดลง
2. การได้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจากการรับประทานหรือตั้งครรภ์ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดีสูง
3. การได้ยาลดไขมันบางชนิดทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีสูง
4. ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีระดับไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมากๆ
5. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายละลายไขมันมากไป