เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพนกกระจอกถูกขังอยู่ในถุงร้อนเจาะรู ซึ่งปกติที่เห็นทั่วไปนกมักจะถูกจับใส่อยู่ในกรงนำมาวางขาย เพื่อให้ผู้คนทั่วไปซื้อไปปล่อยทำบุญอยู่บนแผงที่ตลาดเช้าใน .กาฬสินธุ์ โดยเจ้าของอ้างว่ารับนกมาในราคา 90 บาท ทำให้ผู้พบเห็นต่างรู้สึกสลดใจและวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าเป็นการจับสัตว์มาทรมานเกินไปหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 4 ..62 เมื่อเวลา 08.00 . ที่ตลาดสดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบ นางอำนวย นนทะไชยหรือ ยายนวย อายุ 63 ปี แม่ค้าขายอาหารพื้นบ้านภายในตลาดสดดังกล่าว ซึ่งเป็นชาว .บึงวิชัย .เมือง .กาฬสินธุ์โดยแผงขายของนางอำนวยเป็นแผงเล็กๆ ขายอาหารพื้นบ้านอีสานตามฤดูกาล เช่น ตั๊กแตน หอย ปลาไหล และแมลงต่างๆ โดยวันนี้นางอำนวย ไม่ได้นำนกกระจอกมาขาย มีเพียงตั๊กแตน และหอยเท่านั้น เนื่องจากคนส่งนกไม่ได้นำนกมาส่ง

ทั้งนี้ ยังมี นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม .กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นายกฤษณ์ จันทชุม หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว พร้อมเจ้าหน้าที่เข้ามาให้คำแนะนำนางอำนวย เรื่องการจับนกกระจอกใส่ถุง ซึ่งไม่ควรทำ และให้คำแนะนำเรื่องการนำสัตว์ หรืออาหารพื้นบ้านอีสานมาขาย เพื่อป้องกันความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาขาย โดยเฉพาะนกชนิดต่างๆ

นางอำนวยยืนยันว่า จะเลิกขายนกกระจอกไปตลอดชีวิต หลังจากมีคนถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์จนหลายคนมองว่าเป็นการทรมานสัตว์และออกข่าว อีกทั้งที่ผ่านมาก็ไม่อยากขายนกอยู่แล้ว แต่เนื่องจากมีคนนำมาส่ง จึงจำเป็นต้องขายเพื่อหาเงินเลี้ยงชีวิตและเลี้ยงลูก พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้จับนกกระจอกใส่ถุงเอง แต่คนที่นำนกมาส่งนั้นจับใส่ถุงและเจาะรูไว้แล้ว ซึ่งตนเพียงแค่ขายเท่านั้น

นางอำนวย กล่าวว่า ตนมีอาชีพขายแมลง และอาหารพื้นบ้านอีสานตามฤดูกาลมาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมารายได้ก็พออยู่พอกิน ใช้จ่ายในครัวเรือน และเลี้ยงลูก เนื่องจากมีสามีไปรับจ้างช่วยหารายได้ แต่หลังจากสามีเสียชีวิตลงไปเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ทำให้ภาระทุกอย่างตกมาอยู่ที่ตน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ อาหารการกิน และต้องส่งเสียลูกชายเรียนหนังสือ ซึ่งตนมีลูกชายอยู่ 2 คน คนหนึ่งเรียนจบแล้วไปทำงานที่กรุงเทพฯ และคนเล็กกำลังเรียนอยู่ระดับปริญญาตรี

นางอำนวย กล่าวต่อว่า ทำให้ตนต้องรับทุกอย่างมาขาย ทั้งตั๊กแตน หอย จิ้งหรีด แมลงต่างๆ แม้กระทั่งนก เพื่อหวังว่าจะได้กำไรนิดๆ หน่อยๆ ไปเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ทั้งนี้ ในวันนั้นจำได้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาขอซื้อนกกระจอก และพยายามขอต่อรองราคาเหลือ 90 บาท ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่สามรถลดได้ ซึ่งไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์ในโลกโซเชียลจนเป็นเรื่องเป็นราว

นางอำนวย กล่าวว่า สำหรับนกกระจอกที่ตนขายนั้นมีคนนำมาส่งที่ตลาด ซึ่งตนจะรับซื้อครั้งละประมาณ 100-200 บาทจะมีประมาณ 10 ตัว โดยคนที่นำมาส่งจะจับนกใส่ถุง ละ 1 ตัว พร้อมเจาะรูมาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นตนก็จะนำมาแยกขาย 3 ตัวร้อย ซึ่งตนไม่ได้จับนกใส่ถุง และไม่ได้ขายทุกวัน เพราะบางวันไม่มาส่ง

ทั้งนี้ การขายนกนั้นเดิมยายก็ไม่อยากขาย เพราะวันไหนที่เห็นนกอยู่ในถุงก็รู้สึกสงสาร และกลัวบาปเหมือนกัน แต่จำใจต้องขาย เพราะต้องหาเงินเลี้ยงชีวิตตนเอง แต่หากหลายคนมองว่าเป็นการทำที่ไม่ถูกไม่ควร ยายก็ต้องขอกราบขอโทษทุกคนที่เห็นแล้วทำให้เกิดความไม่สบายใจ และยืนยันว่าจะเลิกขายนกไปตลอดชีวิต แต่จะยังขายอาหารอีสานจำพวกแมลง และหอยเหมือนเดิมยายนวย กล่าว

ด้าน นายนิยม กล่าวว่า วันนี้มาทำความเข้าใจกับยายนวย เกี่ยวกับเรื่องที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียล ที่มีการขายนกกระจอกใส่ถุง ซึ่งเท่าที่สอบถามยายนวย บอกว่ารับทราบแล้ว และยืนยันว่าจะไม่ขายนกอีกแล้ว เพราะตัวยายนวยเองก็สงสารนก และไม่มีเจตนานำนกมาใส่ถุง เพราะคนที่นำนกมาส่งใส่ถุงมาอยู่แล้ว

ขณะที่ นายกฤษณ์ กล่าวว่า สำหรับนกในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่เกือบทุกชนิดจะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ยกเว้นนกกระจอก นกกระทา นกเขาชวา นกเขาใหญ่ และนกพิราบ ที่ไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งหากมีการล่าหรือจับมาขายจะมีความผิดตามกฎหมาย ตาม ...สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 20 มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งวันนี้ได้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งโชคดีที่ยายนวยขายนกกระจอก ซึ่งไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง จึงให้คำแนะนำยายนวยว่า หากเป็นนกชนิดอื่นนั้นอาจจะผิดกฎหมาย เพราะคนที่จับมาส่ง รวมทั้งตัวยายเองก็ไม่รู้จักว่านกที่จับมานั้นเป็นชนิดใด แต่ยายนวยยืนยันว่าจะเลิกขายนกแล้ว

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Khaosod