วันที่ 3 ต.ค. บีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งยืดเยื้อใน ฮ่องกง ว่า น.ส.เวบี มีกา อินดาห์ ผู้สื่อข่าวจาก หนังสือพิมพ์ซัวรา ของอินโดนีเซีย กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดจากความรุนแรงในการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลและผู้ประท้วง หลัง กระสุนยาง ที่ตำรวจยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ทะลุเข้าที่ตาข้างขวาและเป็นเหตุให้สูญเสียการมองเห็นตลอดกาล
นอกจากนี้การชุมนุมดุเดือดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพลเรือนกว่า 100 คนต้องเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บในโรงพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่มีราว 30 นายที่บาดเจ็บ และผู้ประท้วง 269 คนถูกจับกุม ถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการชุมนุมใหญ่ช่วงสุดสัปดาห์เมื่อกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา
นายไมเคิล วิดเลลอร์ ทนายความของน.ส.อินดาห์ แถลงว่าเหตุร้ายเกิดขึ้นขณะที่น.ส.อินดาห์เกาะติดสถานการณ์การประท้วงในย่านหว่านไจ๋เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย. ก่อนตำรวจจะยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมและกลุ่มนักข่าวจำนวนมากบนสะพานลอยคนเดิน
โดยกระสุนนัดหนึ่งยิงจากระยะ 12 เมตรทะลุผ่านกระจกหมวกนิรภัยที่มีตัวอักษรระบุชัดว่าสื่อมวชน และกระสุนก็พุ่งเข้าที่ดวงตาข้างขวาจนบาดเจ็บสาหัส แม้น.ส.อินดาห์จะได้รับการช่วยเหลือพาตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่เมื่อวันพุธที่ 2 ต.ค. แพทย์ระบุไม่สามารถรักษาบาดแผลฉกรรจ์ได้ น.ส.อินดาห์ให้สัมภาษ์ในเวลาต่อมาว่า มีนักข่าวคนหนึ่งตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ว่า “อย่ายิง พวกเราเป็นนักข่าว” แต่ไม่ทันการ และตนก็ถูกยิงในที่สุด
ด้านสถานกงสุลอินโดนีเซียประจำฮ่องกงแถลงยืนยันว่า นักข่าวหญิงได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่จริง พร้อมเรียกร้องให้พลเมืองชาวอินโดนีเซียหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่จัดการประท้วงขณะที่นางอนิส ฮิดายาห์ ผู้อำนวยการองค์กรไมแกรนท์แคร์ หน่วยงานเอ็นจีโอปกป้องสิทธิมนุษยชนในอินโดนีเซีย กล่าวว่ารัฐบาลฮ่องกงควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับน.ส.อินดาห์ และว่ารัฐบาลอินโดนีเซียควรประสานงานกับกงสุลในฮ่องกง เพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าว