สาวขับรถจากสุราษฎร์มาหาแฟนหนุ่มที่ชลบุรี เกิดมีปากเสียง น้อยใจ ก่อนเดินไปบนสะพานลอย พยายามที่จะกระโดดสะพาน หวังฆ่าตัวตาย แต่แม่ค้ามาพบเหตุ ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเกลี้ยกล่อม ลงจากสะพาน นำไปโรงพัก สงบสติอารมณ์
เมื่อเวลา 11.20. น.วันที่ 7 ส.ค.2562 พ.ต.อ.วัชรวิชญ์ นิธิวรรัชย์ ผกก.สภ.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี รับรายงานเหตุจะมีคนกระโดดสะพานลอยคนเดินข้ามถนนสุขุมวิท หน้าวิทยาลัยสารพัดช่าง หมู่ 7 ต.ห้วยกะปิ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รอง ผกก.สส.และกำลังตำรวจรุดไปตรวจสอบพบหญิงสาวยืนอยู่บนสะพานลอยคนข้าม และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา โดยมีแม่ค้าขายของอยู่บนฟุตปาทตีนสะพานกำลังปลอบประโลมใจไม่ให้กระโดดอยู่
ส่วนหญิงสาวดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ชนันชิดา อายุประมาณ 30 ปี เป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี ทำงานเป็นพนักงานประชาสัมพันธ์ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ในตัว จ.สุราษฎร์ธานี ได้ขับรถยนต์มาจาก จ.สุราษฎร์ฯ มาหาแฟนที่ จ.ชลบุรี และได้เกิดมีปากเสียงกัน และน้อยใจแฟน จึงได้เดินออกมาจากโรงแรมเดอะคลาสสิคเพลส ภายในซอยสิทธิโชติ มาที่สะพานลอย เพื่อหวังจะทำร้ายตนเอง ด้วยการจะกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตาย
จากนั้น พ.ต.อ.วัชรวิชญ์ นิธิวรรัชย์ ผกก.สภ.เสม็ด ได้เข้าสอบถามถึงปัญหาจนทราบว่า น.ส.ดา เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมาหาแฟนหนุ่ม กลับพบว่าแฟนหนุ่มมีหญิงอื่น เกิดทำใจไม่ได้จึงคิดจะมากระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย พ.ต.อ.วัชรวิชญ์ จึงให้ตำรวจไปตามตัวแฟนหนุ่มของ น.ส.ดา มาช่วยเกลี้ยกล่อมด้วยประมาณ 30 นาที น.ส.ดา จึงยอมลงจากสะพานให้ตำรวจพาไป สภ.เสม็ด เพื่อสงบสติอารมณ์
และจากการสอบถามแม่ค้าขายกล้วยทอด ผู้พบเห็นเหตุการณ์อีกราย กล่าวเล่าว่า.. พบหญิงสาวคนดังกล่าวมีอาการเชื่องซึม เดินมาขอยืมโทรศัพท์มือถือจากตน แต่เงินหมด ตนจึงได้ให้ไปใช้โทรศัพท์สาธารณะ หญิงสาวจึงได้บอกกับตนว่า..”หากมีอะไรเกิดขึ้น ให้โทรศัพท์ติดต่อกับเบอร์ที่ให้ไป” หลังจากนั้นจึงได้เดินไปที่สะพานลอย เหมือนจะกระโดดลงมา แต่มีคนไปช่วยเจรจา ทำให้หญิงสาวยอมลงมาจากสะพานลอย
ด้าน พ.ต.อ.วัชรวิชญ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสม็ด กล่าวว่า.. พอทราบข่าวว่า มีหญิงสาวจะกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตาย ตนจึงได้รุดมายังที่เกิดเหตุ และให้ผู้หญิงด้วยกันช่วยเจรจา เพราะจะเข้าใจกันมากกว่า ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามเฝ้าระวัง ไม่ให้หญิงสาวกระโดดลงมา หลังจากนั้นได้พยายามติดตามแฟนหนุ่มมาช่วยเจรจาอีกทางหนึ่ง ดีใจที่ทุกอย่างลงเอยไปด้วยดี ก็คงต้องปล่อยให้ปรับความเข้าใจกันไปก่อน
