โจ๋นาแกสุดซ่า กระทืบตำรวจหนุ่ม2นาย มีเรื่องกันในร้านเหล้า ประเด็นมาจาก”แย่งหญิง”รุมอัดสลบ ทุบรถ ชิงปืน ปล้นสร้อยทอง โดนจับยกแก๊ง อ้างไม่รู้คู่กรณีเป็นตำรวจ
วันที่ 28 ก.ค. พ.ต.อ.มานพ มั่นยิ่ง ผกก.สภ.นาแก จ.นครพนม ระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ ตรวจสอบ ติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่น กรณีมีเหตุทำร้ายร่างกายตำรวจ ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 27 ก.ค. บริเวณหน้าร้านเหล้า ในเขตเทศบาลนาแก อ.นาแก เหตุให้ผู้เสียหาย มี ส.ต.ท.วัชรากร กาสังข์ อายุ 24 ปี และ ส.ต.ท.วิศรุต ศีรษะภูมิ อายุ 31 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.หนองบ่อ อ.นาแก ได้รับบาดเจ็บมีแผลฟกช้ำตามร่างกาย แต่อาการปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินเสียหาย คือ รถยนต์เก๋งโตโยต้า สีเทาดำ ทะเบียน กท 315 ร้อยเอ็ด มีร่องรอยใช้ของแข็งทุบด้านท้าย และกระจกประตูหน้าซ้ายแตก อีกทั้ง แก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุยังได้ชิงอาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 มม.ที่วางในรถไป 1 กระบอก และสร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง พร้อมพระเลี่ยมทองหลวงปู่ทวด
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในรถเก๋งผู้เสียหาย จอดริมถนนมัธยมจันทร์ ฝั่งขาเข้าตัวอำเภอนาแก ห่างจากร้านเหล้า ประมาณ 50 เมตร และต่อมา พบหลักฐาน ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านค้าแห่งหนึ่ง ที่สามารถบันทึกภาพ แก๊งวัยรุ่น ขณะก่อเหตุไว้ได้ จึงรวบรวมหลักฐานติดตามจับกุมได้ 4 คน มี นายพงษ์ศักดิ์ แสนสามารถ หรือ กล อายุ 20 ปี ชาว ต.หนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม นายชัยธวัฒน์ มาระนอ หรือ เเบงก์ อายุ 20 ปี ชาว ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม และเพื่อนร่วมแก๊ง เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี อีก 2 คน พร้อมตรวจยึดของกลางอาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 มม. ที่ชิงจากตำรวจไป 1 กระบอก ส่วนสร้อยคอทองคำไม่พบ โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก ควบคุมตัวมาชี้จุด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พ.ต.อ.มานพ มั่นยิ่ง ผกก.สภ.นาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 คน เป็นตำรวจสังกัด สภ.หนองบ่อ อ.นาแก ที่อยู่ในพื้นที่ อ.นาแก มาเที่ยวร้านอาหารในตัวอำเภอ จากนั้นมีปัญหาทะเลาะกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี ประเด็นเกี่ยวกับหึงหวงหญิงสาวในร้าน จึงมีการพูดจายั่วยุกันตามประสาวัยรุ่น จนกระทั่งร้านเลิก ผู้เสียหายเดินไปที่รถ ถูกอีกฝ่ายขี่จยย.ประกบ มีการพูดจาท้าทายกัน และนำพวก 4-5 คน มารุมทำร้าย ขณะที่ตำรวจทั้ง 2 นาย พยายามขับรถยนต์หนี แต่ถูกไม้ทุบรถและถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหมดสติ ชิงเอาอาวุธปืน สร้อยคอทองคำ หลบหนีไป
เบื้องต้น จากการสอบสวน ผู้ต้องหาสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุจริง เนื่องจากมีปัญหาไม่พอใจที่มีการพูดจายั่วยุท้าทายกันในร้านเหล้า เกี่ยวกับเรื่องสาวที่มาเที่ยวในร้าน แต่ไม่รู้ว่าผู้เสียหายเป็นตำรวจ โดยชวนพวกมารุมทำร้าย และชิงอาวุธปืนหนีไป ส่วนสร้อยคอทองคำไม่ได้เอาไป ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และทำให้เสียทรัพย์
