วันที่ 18 ก.ค.62 แม่ของแพรวา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ในรายการโหนกระแส เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ลูกสาวตนขับรถเก๋งชนรถตู้บนทางด่วนใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี 2553 ว่า ไม่ได้ประวิงเวลาที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับเหยื่อ แต่เป็นเพราะหาเงินไม่ทันจริงๆ ทำให้เหยื่อได้รับการเยียวยาล่าช้า และทราบดีว่าชีวิตคนเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ทำไมถึงปล่อยเรื่องยืดมาถึง 9 ปี แม่ของแพรวา เปิดเผยว่า ยืนยันไม่มีความคิดว่าจะประวิงเวลา แต่เราไม่มีเงินสดในตัว ซึ่งตัวเงินค่อนข้างสูง แต่ก็ประเมินกับค่าชีวิตของแต่ละคนไม่ได้ พร้อมยืนยันไม่เคยย้ายทรัพย์หนี เราก็ต่อสู้ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนประเด็นสังคมที่เกิดขึ้น และบานปลายแล้ว ตนกราบขอชาวเน็ต และสื่อ มันเป็นความผิดส่วนตัวของครอบครัวเรา ที่ไม่ดำเนินการทุกอย่างได้ทันถ่วงที ซึ่งตนกราบขออภัยราชสกุลทุกท่าน อย่าไปด่าถึงตระกูลเลย เพราะตน และพ่อของน้องที่ผิด คนอื่นเขาไม่ได้มาร่วมทำผิดกับเราเลย
เมื่อถามว่า อยู่กันมาอย่างไร 9 ปี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ของแพรวา เปิดเผยว่า มันเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานตลอดทุกวัน เขาทุกข์ เราก็ทุกข์กับเราด้วย ทุกคนสูญเสีย บาดเจ็บ เขาเสียใจ เราก็เสียใจ ลูกเราก็อยู่อย่างตายทั้งเป็น ทุกคนอยู่ได้ด้วยยานอนหลับ มันเป็นแบบนี้จริงๆ ไม่มีวันไหนที่จะมีความสุข เพื่อนมาบ้าน ยิ้มแย้ม แต่ในใจเราร้องไห้
ส่วนคดีความที่มีการต่อสู้กันมา 9 ปี นางลัดดาวัลย์ก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นการยื้อเวลา แต่เป็นสิทธิ์ที่ครอบครัวจะอุทธรณ์ได้ ทั้งยังย้ำว่าครอบครัวไม่เคยบิดพลิ้วในการชดเชย และไม่เคยโอนทรัพย์สินหนีแต่อย่างใด
นอกจากนี้ แม่ของแพรวาเผยว่า ครอบครัวประกาศขายที่ดินจำนวน 21 ไร่ ในพื้นที่ระหว่าง อ.ปราณบุรี และ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อนำมาชดใช้ให้กับเหยื่อ แต่ถ้ายังไม่เพียงพอ ก็อาจต้องขายโฉนดที่ดินที่หมู่บ้านเมืองทอง 3 ฉบับ รวม 55 ล้านบาทอีก ซึ่งโฉนดที่ดินดังกล่าวมีชื่อของพ่อแพรวาเป็นเจ้าของ และมีการส่งมอบให้กับ หนุ่ม กรรชัย ผู้ดำเนินรายการมาแสดงในขณะออกอากาศด้วย
อย่างไรก็ตาม นางลัดดาวัลย์เสนอทางออกที่เร็วกว่านั้น คือ ให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ใช้เงินจากกองทุนยุติธรรมจ่ายเป็นค่าชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตก่อน แล้วครอบครัวจะนำไปชดใช้คืนให้