เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 16 ..62 เมื่อเวลา 10.30 . ...หญิงวิรัลพัชร วรพงศ์ปกรณ์ รองสารวัตร (สอบสวนสภ.วังทอง รับแจ้งเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง พื้นที่ต.วังทอง .วังทอง .พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม...บุญญาภาส เพ็งฤกษ์ นวท.(สบ2) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุศพฐ. 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด ภายในห้องนอนพบศพนายเอ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีดำ นุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์สีดำลายจุด มีบาดแผลร่องรอยคมกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา 1 แห่ง เลือดไหลนองที่นอน ตามเนื้อตัวเริ่มซีดแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงดยที่มือซ้ายของผู้เสียชีวิตยังกำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นลำกล้องขนาดความยาวกว่า 13 นิ้วเอาไว้แน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการจึงเก็บไว้ตรวจพิสูจน์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลพุทธชินราช

จากการสอบสวนแม่ของผู้ตายให้การทั้งน้ำตาว่า ลูกชายพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับตนเพียงสองคน เนื่องจากสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ปกติตนจะมีอาชีพขายไข่ไก่อยู่ที่ตลาดเสือลากหาง ส่วนลูกไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ก่อนหน้านี้ลูกเคยต้องคดีและเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำได้ประมาณ 3 ปี ระยะหลังมีอาการขี้หงุดหงิดง่ายชอบพูดคุยคนเดียว และไม่สุงสิงกับใครคล้ายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มักบ่นกับตนเสมอว่าอยากตาย

แม่กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนกลับจากขายของเวลาประมาณ 22.00 .ของวันที่15 .. ได้ยินเสียงลูกชายเปิดทีวีดูอยู่ในห้องจึงไม่ได้สนใจอะไร พอช่วงเวลา 04.00 . ตนตื่นไปขายของแล้วกลับเข้าบ้านมาในเวลา 08.00 .ของวันนี้ เมื่อไปเคาะประตูจะเรียกให้มากินข้าวก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ พอเปิดประตูเข้าไป กลับพบว่าลูกชายใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะมีอาการเครียดจากปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จึงตัดสินใจคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่แม่ผู้เสียชีวิตยืนยันว่า ลูกชายเป็นคนถนัดมือข้างขวาและมือข้างซ้ายส่วนที่ในมือข้างซ้ายกำปืนไว้นั้น อาจจะเป็นไปได้ว่าขณะก่อเหตุผู้เสียชีวิตน่าจะใช้ปากอมปลายกระบอกปืนแล้วใช้นิ้วมือลั่นไกปลิดชีพตัวเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐานและพยานแวดล้อมต่างๆ รวมถึงผลพิสูจน์ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

 

ข้อมูกจาก Khaosod