เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 11 กันยายน 2560 เว็บไซต์เอเชียวัน เผยรายงานชวนอึ้งระบุว่า หญิงสาวรายหนึ่งจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ประสบเหตุไม่คาดฝัน หนังศีรษะถูกทำลายได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนในที่สุดต้องโกนผมทิ้งทั้งศีรษะ โดยมีต้นเหตุมาจาก การตัดสินใจไปย้อมผมที่ร้านเสริมสวย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงชาวจีนที่มีชื่อว่า “ติง” เธอได้ไปทำสีผมที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง โดยเธอได้ตกลงย้อมผมสีเขียวหม่นเหลือบเทา ซึ่งทางช่างใช้เวลาดำเนินการทั้งหมด 7 ชั่วโมง โดยได้มีการย้อมกัดสีผมทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน

หลังจากย้อมสีผมครั้งแรก สีผมไม่ติด จึงต้องทำการย้อมครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งนี้ เธอเริ่มมีอาการแสบหนังศีรษะ แต่ทางช่างได้บอกกับเธอว่า เป็นเรื่องปกติ และบอกให้ทนไป

ทว่าหลังจากนั้น ทางช่างเสริมสวยได้ย้อมผมเธออีกเป็นครั้งที่ 3 โดยเติงได้บอกกับทางช่างว่า รู้สึกเจ็บแสบหนังศีรษะมาก พร้อมทั้งชี้แนะว่าอาจจะมีบางอย่างผิดปกติที่เกี่ยวกับน้ำยาย้อมผม แต่ทางช่างกลับไม่ยอมรับและแย้งว่าเป็นเรื่องปกติ ก่อนจะเริ่มกระบวนการย้อมผมให้เธอต่อไป

สีผมของเติงออกกลายเป็นสีเขียวสว่างลักษณะเดียวกับสีแอปเปิ้ลเขียว แทนที่จะเป็นสีเขียวหม่นตามที่เธอต้องการ แม้จนถึงขณะนั้น ช่างเสริมสวยยังคงบอกกับเธอว่า เป็นเรื่องธรรมดาของสียี่ห้อดังกล่าว ที่ย้อมออกมาได้สีเช่นนี้

จากนั้น เติงจึงตัดสินใจให้ช่างย้อมสีผมใหม่เป็นครั้งที่ 4  ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกปวดแสบหนังศีรษะและทรมานมากจนน้ำตาไหลออกมา ซึ่งทางช่างก็ยังคงบอกว่าเป็นเรื่องปกติอยู่ จนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว จึงโทรศัพท์เรียกให้ลูกสาวมารับที่ร้าน

ในตอนนั้นเอง ทางช่างเสริมสวยถึงเพิ่งตระหนักได้ว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเติง จึงรีบจัดการช่วยพาเธอไปล้างน้ำยาย้อมผมออก และสุดท้ายลูกสาวของเธอก็มารับตัวพาไปส่งรักษาที่โรงพยาบาล

ย้อมผมจนต้องโกนหัว

ภายหลังจากการตรวจเช็ก แพทย์ผิวหนังเผยว่า หนังศีรษะของเติงเกิดปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรงเฉียบพลัน อันเป็นผลมาจากการถูกสารเคมีเผาไหม้กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ จนเกิดความเสียหายอย่างหนัก ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก ในที่สุดเติงจึงต้องโกนผมทิ้งทั้งหมด เนื่องจากแพทย์เกรงว่า อาจจะมีสารเคมีหลงเหลือในเส้นผม ที่จะอาจจะส่งผลทำลายหนังศีรษะได้

เติงต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานถึง 5 วัน โดยเธอเผยว่า ตลอดชีวิตเธอไว้ผมยาวมาตลอด หลังจากเกิดเหตุเธอยังรู้สึกรับไม่ได้กับรูปลักษณ์ของเธอที่ต้องหัวล้านในขณะนี้

ที่มา – kapook