เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 24 มิ.. ที่องคการบริหารส่วนตำบลหัวขวาง  .โกสุมพิสัย .มหาสารคาม นายสมยศ จันทะรักษ์ นายช่างโยธาอาวุโส อบต.หัวขวาง ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า รถของตนถูกออกใบสั่งข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดจากสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง .นครปฐม และสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง .เพชรบุรี รวม 3 ใบ

โดยที่รถคันที่ถูกถ่ายรูปใบสั่งมีการปลอมแปลงปิดบังหมายเลขทะเบียนรถ โดยนำบางสิ่งบางอย่างมาปิดทับหมายเลขตัวสุดท้ายไว้ทำให้ 3 หมายเลขด้านหน้าตรงกับทะเบียนรถของตนเองทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อนโดนใบสั่งถึง 3 ใบ ทั้งๆ ที่ไม่เคยขับรถไปเส้นทางดังกล่าว อีกทั้งเกรงว่ารถคันที่ก่อเหตุจะทำสิ่งผิดกฎหมายจึงเข้าลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกสุมพิสัย และร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามเจ้าของรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายสมยศ จันทะรักษ์ นายช่างโยธาอาวุโส อบต.หัวขวาง .โกสุมพิสัย .มหาสารคาม เล่าว่า รถของตนเป็นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิคหมายเลขทะเบียน ชป 957 กรุงเทพมหานครโดยเมื่อวันที่ 24 เม..62 ตนเองได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง .เมือง .เพชรบุรี เพื่อไปเสียค่าปรับข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดเหตุเกิดที่ทล.4 กม.117-118 .หนองกระทุ่ม .ปากท่อ .ราชบุรี ซึ่งมีภาพถ่ายระหว่างที่รถวิ่งผ่านกล้องตรวจจับความเร็วอยู่ที่ 163 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ครั้งที่ 2 วันที่ 9 ..62 ได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง .เมือง .นครปฐม เหตุเกิดที่ .แพรกหนามแดง .อัมพวา .สมุทรสาคร ความเร็วอยู่ที่ 154 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และครั้งที่ 3 วันที่ 30 ..62 ได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง .เมือง .เพชรบุรี เหตุเกิดที่เหตุเกิดที่ทล.4 กม.117-118 .หนองกระทุ่ม .ปากท่อ .ราชบุรี

ซึ่งมีภาพถ่ายระหว่างที่รถวิ่งผ่านกล้องตรวจจับความเร็วอยู่ที่ 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยครั้งนี้รถคันก่อเหตุได้ยื่นมือออกมานอกรถและชูมือขึ้นเหมือนเป็นการท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่างไรก็ไม่สามารถจับได้เพราะปลอมแปลงเลขทะเบียน

จากที่สังเกตจากใบสั่งที่ส่งมาถึงนั้นมีการนำบางอย่างมาปิดบังหมายเลขตัวสุดท้ายทำให้เลข 3 ตัวหน้า เหมือนกับรถของตนทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนอีกทั้งรถของตนไม่มีไฟตัดหมอกแต่รถคันก่อเหตุมีไฟตัดหมอกทำให้ตนเองไม่สบายใจที่อยู่ดีๆก็โดนใบสั่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เดินทางไปไหนเลยแต่ความเดือดร้อนก็มาถึงประตูบ้าน

ซึ่งทั้ง 3 ครั้ง ตนไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.โกสุมพิสัย และแจ้งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดที่ออกใบสั่งให้ตนเองแล้วซึ่งตนได้รับการยกเว้นค่าปรับไปแล้วโดยตั้งแต่ตนออกรถคันนี้มา12 ปียังไม่เคยขับรถไปทางแถบ.สมุครสงครามหรือจ.เพชรบุรีเลยรถคันนี้จะใช้ขับแค่จากบ้านมาที่ทำงานเท่านั้นแต่ตนยังมีความกังวลเกรงว่าหากรถคันดังกล่าวไปก่อเหตุผิดกฎหมายจะนำเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตนและอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำความผิดอีก