ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้โดยสารรายหนึ่งโพสต์ข้อความและภาพเตือนภัยในเฟซบุ๊ก “รวมพล คนสุวรรณคูหา” เป็นภาพรถทัวร์ และภาพชายแต่งกายคล้ายพนักงานประจำรถ ที่เอามือของเจ้าของโพสต์ขึ้นไปกอดจูบ และอีกภาพเป็นลักษณะจับบริเวณเป้ากางเกง ที่ไม่ได้รูดซิป พร้อมข้อความเตือนภัยว่า
“#เตือนภัยเจอมากับตัวเองค่ะ วันนี้เองมีเรื่องราวมาเตือนภัยสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว โดยเฉพาะผู้หญิง วันนี้เจอมากับตัวเองเป็นบริษัทรถทัวร์บริษัทหนึ่ง ในอำเภอสุวรรณคูหา (ขอไม่เอ่ยจ้า) เรื่องมีอยู่ว่าหนูเดินทางจากกรุงเทพ-สุวรรณคูหา เวลา 20.40 น. เดินทางคนเดียว พอขึ้นรถเสร็จมีพนักงานเก็บกระเป๋าคนหนึ่งได้นำผ้าห่มมาให้ แต่พอเสร็จกลับเอามือลูบ หนูก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าพี่เขาคงหยอก แต่พอครั้งที่สองได้เอามือมาลูบไล้ที่แขน หนูคิดว่าไม่ใช่ละ แต่ก็ไม่ได้พูดไรมาก พอรถมาถึงอยุธยาซึ่งเป็นเวลาที่หนูหลับ หนูรู้สึกตัวเหมือนมีอะไรแข็งๆ มาถูที่แขน เห็นพี่เขาเอาอวัยวะเพศชายมาถูแขนหนู พอหนูรู้สึกตัวพี่เค้าก็จับมือหนูไปดม พร้อมกับหอมที่แก้มหนู หนูตกใจไม่คิดว่าจะมีคนทำแบบนี้บนรถ จึงตะโกนบอกว่าพี่จะทำอะไรอะ เค้าก็เดินจากไป ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งคนบนรถก็มีอยู่ แต่เขาพี่ก็กล้าทำ”
โพสต์ระบุต่อว่า “นานพอสมควรจนถึงหนองบัวลำภู ซึ่งคนบนรถเหลือประมาณสามคน อีกคนลงที่อำเภอนากลาง ทำให้บนรถมีหนูอยู่เพียงแค่คนเดียวที่จะเดินทางไปอำเภอสุวรรณคูหา แล้วจู่ๆ พี่เค้าก็มานั่งข้างข้างถาม ทำไมสวยจัง น่ารักจัง ทำหน้าอกมาหรือยัง แปลงเพศมาหรือยัง ผิวหอมมากเลย พี่ชอบแบบหนูนี่แหละ พร้อมเอามือหนูไปดม และเอาไปจับอวัยวะเพศ แล้วพี่แกก็พยายามที่จะหอมแก้มหนู หนูบอกว่ามันไม่เหมาะที่นี่อ่ะ พยายามคุยด้วยดีๆ เพราะหนูกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับหนูระหว่างทาง ตอนนั้นหนูพยายามเอาโทรศัพท์มาถ่ายวิดีโอ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยในวิดีโอจะเห็นพี่เค้าโชว์อวัยวะเพศตัวเองและลวนลามหนู พอพี่เขาจากไป หนูก็ติดต่อญาติให้มารับที่สถานีตำรวจ ซึ่งเป็นที่จอดรถ พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีค่ะ” ปล.โพสต์นี้ก็เป็นอุทาหรณ์การเตือนภัยสำหรับชาวสุวรรณคูหา โดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวค่ะ”
ซึ่งภาพดังกล่าวได้ถูกแชร์เตือนภัยไปทั่วโลกออนไลน์ โดยต่างสนับสนุนให้ผู้เสียหายเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายประสิทธิ์ กล้าทำ ขนส่งจังหวัดเลย รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ทางขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภู ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมตรวจสอบกับพนักงานสอบสวน สภ.สุวรรณคูหา ทราบว่ามีการแจ้งความอนาจารจริง แต่คู่กรณีตกลงยอมความแล้ว
