เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาต ผกก.สภ.มาบตาพุด ระยอง ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 พ.ย. เกิดเหตุ 2 คนร้ายดักทำร้ายโดยใช้มีดปลายแหลมแทงเข้าที่ชายโครงของนายณัฐพล บุญพิทักษ์ อายุ 20 ปี ที่มากับ น.ส.ออย อาการสาหัส และยังทำร้าย นางนนทกร บุญพิทักษ์ อายุ 55 ปี มารดาของผู้ที่ถูกแทง จนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ก่อนจะใช้มีดข่มขู่ฉุดตัว น.ส.ออย ขึ้นรถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีไป ท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณ์ด้วยความตกตะลึง ก่อนที่จะช่วยกันนำตัวส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ มาบตาพุด ล่าสุดแพทย์เผยว่าผู้ได้รับบาดเจ็บถูกมีดแทงจนทะลุปอด 1 แผล และที่ลำตัวอีกหนึ่งแผล แพทย์จึงต้องผ่าตัดช่วยชีวิต ล่าสุดยังต้องพักฟื้นรอดูอาการต่อไป
พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ กล่าวว่า นับเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ กลางเมืองมาบตาพุด ขณะที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งทางตำรวจทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คือ นายธนกฤต โพธิ์บรรจง อายุ 30 ปี หรือ มด พระราม 3 ส่วนอีกรายยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งเคยบุกมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่รุนแรง มีการลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.มาบตาพุด และ มีการไกล่เกลี่ยยอมความกันไป ส่วนสาเหตุเกิดมาจากความหึงหวง ผู้ก่อเหตุเป็นแฟนเก่า กับ น.ส.ออย ที่เลิกรากันแล้วมาคบหากับผู้ที่ถูกทำร้าย โดยมาพร้อมกับเพื่อนรวมสองคน มาดักซุ่มที่หน้าร้านเสริมสวย ถ.เนินพยอม ต.มาบตาพุด อ.เมือง ระยอง ซึ่งเป็นบ้านของมารดาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
จนกระทั่งทั้งสองออกจากร้านมาจึงวิ่งเข้าทำร้าย นายณัฐพล จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดท่วมตัว โดยมีนางนนทกร มารดาของผู้ได้รับบาดเจ็บพยายามเข้าไปช่วยจนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าทั้งสองข้าง หลังจากนั้นก็ใช้มีดจี้ตัว น.ส.ออย ขึ้นซ้อนท้ายรถจยย.แล้วขี่ออกไปอย่างใจเย็น โดยมีเพื่อนที่มาด้วยกันขี่รถตามไป ซึ่งทางตำรวจได้สกัดตามเส้นทางที่หลบหนียังไม่พบตัว คาดคงยังกบดานในพื้นที่พร้อมกับ น.ส.ออย เพื่อรอจังหวะหนีกลับกรุงเทพฯ
ด้านนางนนทกร มารดาของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเร่งให้จับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ ทั้งที่เป็นช่วงที่มีคนพลุกพล่านยังกล้าก่อเหตุ เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากเรื่องผู้หญิงแฟนของบุตรชาย ที่เป็นแฟนเก่าของคนร้าย ที่เลิกรากันแล้ว แต่ยังตามมาหึงหวง เคยบุกมาแล้วและรับปากจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีกจึงยอมความไป แต่ก็มาก่อเหตุซ้ำอีก จึงต้องการให้จับตัวมาลงโทษโดยเร็ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูเส้นทางหลบหนี แต่ก็ยังไม่พบเบาะแส คาดคงจะยังหลบในพื้นที่หรือไม่ก็เปลี่ยนรถหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ที่มา – ข่าวสด