เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน2562 ที่ สะพานลอยหน้าโรงเรียนกบินทร์วิทยา สายตรวจตู้ยามเครือสหพัฒน์รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีเด็กชายคนหนึ่งจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตายสร้างความแตกตื่นเป็นอย่างมาก จึงรีบรุดตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วนพร้อมกู้ภัยสัจจะกบินทร์บุรี เกรงว่าเด็กชายคนดังกล่าวจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบกับเด็กชายคนหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าสีเขียวเหลือง ยืนอยู่บนสะพานลอยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ห่างๆ ทราบว่า เป็นแม่ลูกกัน เจ้าหน้าที่พูดจาเกลี้ยกล่อมราว 5 นาที เด็กชายคนดังกล่าวจึงยอมเข้ามาหาแม่และพาตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ตู้ยาม
จากการสอบถามจากชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนผู้หญิงคนดังกล่าวชื่อว่านางดวงแก้ว ยาณิวงศ์ อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 563/144 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยนางดวงแก้ว เล่าว่า เด็กชายคนดังกล่าวเป็นลูกชายตนเอง ชื่อว่าน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.นนทรี ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม.ก่อนเกิดเหตุตนเองตามมาดูลูกชายซึ่งไม่ไปโรงเรียนอยู่ที่ร้านเกมส์ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ตนได้ต่อว่าลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียน พอลูกชายเห็นตนมาต่อว่าจึงขับรถจักรยานยนต์หนีไป ตนขับรถตามมาติดๆ เมื่อมาถึงสะพานลูกชายวิ่งขึ้นสะพานบอกว่าจะกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตาย ตนใจหายที่ได้ยินลูกชายพูดออกมาแบบนี้ จึงพูดจาเกลี้ยกล่อมแต่ลูกชายขยับหนีตนเห็นท่าไม่ดีจึงโทรบอกแม่ว่าหลานจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินทางมาช่วยพูดเจรจาลูกชายจึงยอมให้ตนเอง กับตำรวจเข้าใกล้ สาเหตุในครั้งนี้มาจากลูกชายติดเกมส์ไม่ยอมไปโรงเรียนมานานแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตักเตือนและอบรมสั่งสอนพร้อมทั้งให้กลับบ้านไป
ทั้งนี้ นางดวงแก้ว เผยอีกว่า ตนสั่งสอนลูกและตีบ้างในบางครั้ง เพราะลูกไม่ไปโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงได้พักการเรียนไว้ลูกชายอยู่กับปู่ย่า ตนทำงานส่งให้เรียนโดยปกติ แต่ลูกไม่เรียนจนทะเลาะกันบ่อยครั้ง ไม่คิดว่าลูกจะมาคิดสั้นทำเรื่องเป็นเรื่องตายในวันนี้ ตนเองอยากให้ลูกรู้ว่ารักและเป็นห่วงลูกมาก มีลูก 2 คนคนนี้เป็นคนโต
ขณะที่เด็กชายเอกล่าวเพียงว่า ที่คิดฆ่าตัวตาย เพราะแม่ดุด่าจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ จึงคิดที่จะกระโดดสะพานฆ่าตัวตายดังกล่าว
