เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 2 มิ.. 62 เวลาประมาณ 21.30 . มีรายงานว่านายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักกิจกรรมชื่อดัง ถูกกลุ่มคนไม่ทราบจำนวน ดักทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดที่ย่านห้วยขวางเบื้องต้น ทราบว่าได้รับบาดเจ็บที่หู และศีรษะแตก โดยนายสิรวิชญ์ ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่นำตัวจ่านิวส่งโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ โดยนอกจากถูกทำร้ายร่างกายแล้ว ยังพบโทรศัพท์มือถือของนายสิรวิชญ์หายไประหว่างถูกทำร้ายร่างกายด้วย

ล่าสุดวันที่ 3 มิย.62 ..พัฒน์นรี ชาญกิจ อายุ 43 ปี มารดา เดินทางไปเยี่ยมบุตรชายที่ห้องฉุกเฉิน ..มิชชั่น เมื่อเวลา 01.00 . ก่อนจะทำเรื่องย้ายไปนอนพักรอดูอาการที่ห้องพิเศษของทางโรงพยาบาล ท่ามกลางความห่วงใยของเพื่อนๆ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มาเฝ้าติดตาม

นายสิรวิชญ์ ซึ่งอยู่ในสภาพฟกช้ำตามใบหน้าใบหูขวาและตามร่างกายหลายแห่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้หวาดกลัวแต่ติดใจว่าทำไมต้องเล่นหมาหมู่ ที่ผ่านมามีคนเตือนมาเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นเพราะระวังตัวมาตลอดอยู่แล้วตอนจะใช้บริการรถประจำทางก็พยายามเลือกรอรถที่ป้ายซึ่งมีคนพลุกพล่าน แต่ก็พลาดจนได้จึงขอฝากเตือนนักเคลื่อนไหวทุกคนให้ระวังตัวให้มากขึ้น

จ่านิวกล่าวต่อว่า ตอนเกิดเหตุคนร้ายมีกันประมาณ 5-6 คนแต่งกายรัดกุมมิดชิดมีรถจยย.เป็นยานพาหนะและใช้อาวุธคล้ายไม้พลองครบมือทุกคนเข้ามารุมตีตนโดนเน้นที่ใบหน้าศีรษะและบริเวณทัดดอกไม้โดยไม่พูดจาอะไรเลย

 “ผมคิดว่าการกระทำแบบนี้เหมือนจะพยายามฆ่ากันไม่รู้จะอาฆาตพยาบาทอะไรผมนักหนา จึงอยากบอกกับผู้ก่อเหตุว่าผมจะไม่อโหสิกรรมให้แน่นอน และฝากบอกตำรวจด้วยว่าขอให้ทำคดีให้เร็วที่สุดหลังจากนี้ผมก็จะยังคงใช้ชีวิตปกติเช่นเคยเพียงแต่ต้องระวังตัวให้มากยิ่งขึ้น จ่านิวกล่าว

ด้านแม่ของจ่านิวกล่าวว่า แพทย์ที่รักษาลูกชายบอกว่า ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ผลตรวจในเบื้องต้นไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงสมอง แต่ลูกชายบ่นเวียนศีรษะจึงอยากให้นอนรอดูอาการสัก 24 ชั่วโมง โดยลูกชายมีสิทธิ์รักษาประกันสังคมที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ค่าห้องพิเศษตนต้องออกเอง 

ช่วงนี้ตนติดตามข่าวสารพบว่านักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกทำร้ายเยอะมากและตนก็เตือนให้ระวังมาตลอดไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกชายครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่มาโดนทำร้ายถึงขนาดนี้

 “ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการใช้บริการรถสาธารณะไม่น่าจะมีอะไรแต่ที่ไหนได้พอเกิดเรื่องขึ้นตรงป้ายรถประจำทางกลับไม่มีใครช่วยที่สำคัญผู้ก่อเหตุคงไม่ได้เจตนาเพียงจะลงมือสั่งสอนเนื่องจากเลือกตีแต่ที่ศีรษะเชื่อว่าคงไม่ทันแล้วที่จะห้ามให้ลูกหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ได้แต่ตักเตือนให้ระวังตัวมากยิ่งขึ้นก็เท่านั้นแม่จ่านิวกล่าว

 

 

ข้อมูลจาก Khaosod