เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้มีผู้ใช้ facebook ได้โพสต์ภาพลักษณะหญิงสาวถูกจับมัดข้อมือโยงกับต้นไม้ และมีชายถอดเสื้อนั่งดื่มสุราอยู่บริเวณข้างๆ และได้นำฟางมาจุดไฟเผาบริเวณใกล้กับหญิงสาว

วันนี้ (24 พ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพันตำรวจเอกทวีศักดิ์ สุขเกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ได้นำตัวนายสมพงษ์หรือตั๊ก เฉลิมสะคุ อายุ 30 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 6 ตำบลกุดดินจี่ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภูได้พร้อมด้วยของกลางคือเชือกสีแดงยาวประมาณ 1.6 เมตร

นางสาวปาลิตา แสนศรี ผู้เสียหาย ได้ให้การว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 01.30 น.นายสมพงษ์ ได้ไปหาตนเองที่บ้าน เรียกให้เปิดประตูบ้านแต่ตนไม่ยอมเปิด เพราะเห็นว่านายสมพงษ์ เมาสุรามา จากนั้นจึงได้ทำลายกระจกหน้าต่างบ้านของตนเอง และมีปากเสียงกัน และต่อมารุ่งเช้าของ วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ตนเองโมโหจึงได้ออกติดตามมาเจอนายสมพงษ์ กำลังนั่งดื่มสุราอยู่ที่เกิดเหตุ จึงได้คว้าไม้บริเวณใกล้เคียงเข้าไปฟาด และทำร้ายนายสมพงษ์ก่อน จึ่งเกิดการชุนละมุนกัน

ตนเองสู้แรงของนายสมพงษ์ไม่ได้ นายสมพงษ์ ได้นำเชือกมามัดแขนของตนเองผูกโยงกับต้นไผ่ และนำก้อนฟางมาจุดไฟบริเวณใกล้กับที่ตัวเองยืนอยู่ๆ หลังจากนั้นตนเองจึงได้ตะโกนเรียกให้คนช่วย จึงได้มีหลานของตนเองซึ่งอยู่ในบริเวณละแวกนั้นได้เข้ามาถ่ายรูปโพสลงโซเชียล เพื่อขอความช่วยเหลือจนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาช่วยเหลือตนเองดังกล่าว ซึ่งตนเองยืนยันจะดำเนินคดีกับนายสมพงษ์ให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายสมพงษ์ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองได้ก่อเหตุจริงและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากจะขอโทษแฟนสาว ที่ใช้เชือกมัดโยงกับต้นไม้เพื่อให้นางปาลิตาสงบสติอารมณ์ ส่วนที่นำก้อนฟางมาเผาข้างๆ เพื่อเป็นการขู่เฉยๆ ตนเองกับนางปาลิตาได้คบหาดูใจกันมาประมาณเกือบ 1 ปีแล้ว ไม่มีบุตรและไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ตนเองต้องขอโทษทำให้เหตุการณ์เรื่องบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ และถ้ามีโอกาสตนเองก็จะขอแก้ตัวอีกสักครั้ง

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางญาติพี่น้องของผู้เสียหายเกือบ 100 คน ได้ตะโกนด่าสาปแช่งผู้ต้องหาอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นแต่อย่างใด จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหากลับไปที่ สภ.นากลาง และได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำโดยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าและดื่มสุรามาด้วย ส่วนข้อหาอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนพยาน และจะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาต่อไป