เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สาวใหญ่ง้อผัว กลับมีปากเสียง ฝ่ายชายไม่คืนดี เกิดน้อยใจเข้าไปนั่งในรถ จุดไฟเผาขังตัวเอง แต่ทนความร้อนไม่ไหวรีบวิ่งออกมา ถูกไฟคลอกหวิดดับ บาดเจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 23 พ.ค.62 มีรายงานข่าวแจ้งว่า ร.ต.อ.บุญหลาย ชัยทิพย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บางนา รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ภายในซอยสุขุมวิท 103/2 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจ สายตรวจ และตำรวจจราจร สน.บางนา เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิง สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.12 น. วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน พษ 3696 กรุงเทพมหานคร มีแสงเพลิงพวยพุ่ง เผาไหม้เสียหายทั้งคันรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการฉีดน้ำ แต่ทว่ารถคันดังกล่าวใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน จนเวลาผ่านไป 20 นาที เพลิงจึงสงบลง ขณะเดียวกันพบว่ามีหญิงวัยกลางคน 1 ราย ถูกไฟคลอก ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย ทราบชื่อภายหลัง น.ส.จิราภรณ์ ใจเย็น อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรีบนำตัวส่ง รพ.กล้วยน้ำไท ไปก่อนหน้านี้

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้เดินทางมาหาสามีเก่าที่เลิกรากันไปประมาณ 2-3 ปี เพื่อขอคืนดี แต่กลับมีปากเสียงกัน ฝ่ายชายไม่ยินยอมคืนดีด้วย ทำให้ฝ่ายหญิงน้อยใจเข้าไปนั่งในรถของอดีตสามี กระทั่งเวลาผ่านไป พบว่ามีแสงเพลิงลุกขึ้นมาจนผู้บาดเจ็บทนความร้อนไม่ได้วิ่งออกจากตัวรถ ก่อนฟุบลงกับพื้น จากนั้นประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ต่างเข้าช่วยเหลือ

เบื้องต้น สันนิษฐานสาเหตุเพลิงไหม้ เกิดจากการจุดไฟเผารถตัวเอง อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังต้องทำการสอบสวนพยานแวดล้อม และสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ตลอดจนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา กล่าวว่า ตนสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำอดีตสามี รวมถึงพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว เพื่อหาว่าข้อเท็จในคดีนี้เป็นอย่างไร พร้อมประสานทางพฐ.ให้มาตรวจรถว่าเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างไร ตอนนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการปลอดภัยสามารถให้การได้ ทางพนักงานสอบสวนก็จะไปสอบปากคำตามสะดวก

โดยจากการสอบปากคำพยานทราบว่า อดีตสามีและผู้บาดเจ็บไปนั่งในรถ คาดว่าน่าจะมีปากเสียงกัน ก่อนที่ตัวผู้ชายจะลงจากรถมาก่อน มีเพียงผู้บาดเจ็บนั่งในรถคนเดียว สักพักก็เกิดเพลิงลุกไหม้ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเพลิงไหม้นั้นเกิดจากความขัดข้องของเครื่องยนต์ หรือมีการจุดไฟเผา ทั้งนี้หากผู้บาดเจ็บมีเจตนาจุดไฟเผารถ ก็จะมีความผิดในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นข้อหาที่ยอมความกันได้ โดยเจ้าหน้าที่จะหาหลักฐานและสอบปากคำอย่าฃละเอียดเพื่อหาข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อไป