จากกรณี ด.ช.ชินกฤต รวมจตร หรือน้องกัปตัน วัย 5 ขวบ หายจากไปบ้านที่อาศัยที่หมู่ห้วยเม็ง หมู่ 6 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชายแดนไทย-ส.ป.ป.ลาว ติดแม่น้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 62 พ.ต.อ.ถนัด พลพานิช ผกก.สภ.เชียงของ เปิดเผยว่า ระหว่างที่ชาวบ้าน บ้านห้วยเม็ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ท้องที่ ต.เวียง พากันเดินหน้ากระดานตามหาตามสวนผลไม้โดยรอบหมู่บ้าน เพื่อค้นหาน้องกัปตัน เด็กชายวัย 5 ขวบที่หายตัวไป
ระหว่างนั้น นายกิตติพงศ์ วงค์ชัย และนายสี่ แก้วบุญทัน ที่ออกไปจับหนูในสวนผลไม้บังเอิญไปเจอน้องกัปตันที่นอนพิงเนินในสภาพโรยแรง และเปื้อนโคลนทั้งตัว ไม่ใส่เสื้อผ้า จึงโทรหาคนที่บ้าน เพราะทั้ง 2 คนเคยมาช่วยทำงานในบ้านของน้องกัปตัน และได้นำน้องไปล้างตัวในลำห้วย ก่อนอุ้มมาส่งที่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร และญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ น้องกัปตัน ได้ร้องตามตาที่กำลังจะไปสวน แต่ตาไม่ให้ไปด้วย โดยน้องกัปตันได้กระโดดขึ้นรถกระบะแล้ว แต่ตาก็อุ้มลงให้อยู่ในบ้าน ซึ่งน้องก็ลงมาเล่นน้ำในสระหน้าบ้านที่เป็นลานโล่ง โดยตาออกจากบ้านเวลาประมาณ 12.30 น. จึงสันนิษฐานว่าคล้อยหลังตาออกไปสวน น้องกัปตันจะเดินตามตาไปสวน เพราะเคยไปสวนกับตา ซึ่งไปทางน้ำตกห้วยเม็ง แต่น่าจะหลงทางออกไปทางซ้ายไปยังจุดที่พบตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพของน้องกัปตันถูกนำส่งโรงพยาบาลมีรอยหญ้าบาดทั่วตัว สันนิษฐานว่า ระหว่างเดินเข้าไปสวนผลไม้คงร้อนและระคายผิว จึงถอดเสื้อออก และระหว่างทางจากบ้านไปยังจุดที่พบตัว จะมีลำห้วยที่ต้องข้ามหลายจุด น้องอาจเปื้อนโคลนจากลำห้วย
หลังการรักษาตัวน้องกัปตันมีสภาพฟื้นตัวดีขึ้น พูดคุยได้ แม่ของน้องกัปตันที่นำนมกล่องให้น้องกัปตันกิน 2 กล่อง น้องกินอย่างรวดเร็วด้วยความหิว และบอกว่าแน่นท้อง และมีอาการอิดโรย ง่วงนอน และยังมีอาการผวาเล็กน้อย
ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ค.) ในระหว่างการค้นหาก็ได้ให้หมอดูนั่งทางในเพื่อนำทางในการค้นหา ซึ่งหมอดูบอกว่าน้องยังอยู่ในป่า ห่างจากบ้านไม่ไกลให้รีบค้นหา และได้บนศาลเจ้าพ่อประจำหมู่บ้านจะถวายหัวหมู และพากันช่วยหาทั้งหมู่บ้านพร้อมเจ้าหน้าที่กว่าร้อยนายค้นหาหน้ากระดาน ค้นหาระยะ 1-2 กิโลเมตรแต่ไม่พบ แม้เรียกก็ไม่ได้ยินเสียงตอบจากน้องกัปตัน
และเช้ามืดวันนี้ ชาวบ้านก็ไปหาหมอดูที่ อ.ดอยหลวง อีกหมอดูก็บอกว่าเด็กยังอยู่ในพื้นที่ที่มีต้นไม้ไม่ไกลจากบ้านมาก อยู่ที่ไม่สูงไม่ต่ำ จึงระดมกันหาอีกรอบ แล้วมีคนต่างหมู่บ้านมาเจอดังกล่าว และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้ตามหาเสื้อผ้าร่องรอยระหว่างทาง กรณีที่พบเบาะแสแล้วมีการตั้งสมมติฐานว่า อาจมีคนนำน้องกัปตันขึ้นรถตู้ไปและนำเด็กกลับมาทิ้งไว้ในสวนนั้น อาจเป็นคนหน้าคล้ายกัน แต่ก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบและดูความเป็นไปได้ และจะหารือกับผู้ปกครองอีกครั้ง
ภายหลังการพบน้องกัปตันแล้ว ชาวบ้านมีการหารือกันเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในหมู่บ้าน ที่จะมีการประชุมหาแนวทางป้องกัน โดยจะติดกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน และวางแผนการป้องกันปัญหาในอนาคต และเตรียมแก้บนและทำพิธีเรียกขวัญน้องกัปตันหลังหายดี
