ภายหลัง นายสุริยา หรือครูอ๋อง นวลเจริญ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.10 ต.บะฮี อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ 219/2560 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ข้อหาร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในคดีในการพิจารณาคดีอาญาและซ่องโจร เพื่อนสนิท นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ ครูจอมทรัพย์ ผู้ต้องหาร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล กรณีขอรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ ขับรถชนคนตาย หลังถูกเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ติดตามจับกุมได้บริเวณสถานีรถไฟหลักสี่ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ก่อนควบคุมตัวสอบปากคำที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นได้นำตัวกลับมาสอบสวนต่อที่ สน.ทุ่งสองห้อง ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม จะรับตัวนายสุริยา หรือครูอ๋อง นวลเจริญ กลับไปสอบสวนต่อที่ สภ.จว.นครพนม ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว
อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากการสอบปากคำ นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง รับสารภาพว่า ได้ว่าจ้าง นายสับ วาปี เป็นจำนวนเงิน 4 แสนบาท เพื่อปั้นพยานรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ส่งผลให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินช่วยเหลือมามากกว่า 1 ล้านบาท ส่วนที่เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมาหาพรรคพวก ปรึกษาด้านคดีความ
อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากการสอบปากคำ นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง รับสารภาพว่า ได้ว่าจ้าง นายสับ วาปี เป็นจำนวนเงิน 4 แสนบาท เพื่อปั้นพยานรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ส่งผลให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินช่วยเหลือมามากกว่า 1 ล้านบาท ส่วนที่เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมาหาพรรคพวก ปรึกษาด้านคดีความ
ที่มา – ไทยรัฐ