เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ 22 เม.ย.62 ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา แทนนายธนาธร ว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แต่ก็ยังคงมีสื่อมวลชนบางสำนักเผยแพร่ข่าวนี้ และมีการพาดหัวชี้นำมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดคำถามว่า มีความต้องการลดความน่าเชื่อถือของพรรคหรือไม่ ซึ่งเดิมทีทางพรรคต้องการชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อ แต่จนถึงวันนี้ กลับยังไม่เคยได้รับการติดต่อจาก กกต.ให้ไปชี้แจงแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เตรียมเอกสารหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้ว และยังข่าวว่าจะมีการชี้มูลภายใน 1-2 วันนี้ โดยอาศัยข้อมูลจากกรรมการช่วยตรวจสอบ ซึ่งมีการเรียกหนังสือจากหน่วยงานต่างๆ เข้าไปประกอบเพียงฝ่ายเดียว แต่เรากลับไม่ทราบเรื่องนี้จาก กกต.เลย จึงเกิดความกังวลใจว่ากระบวนการพิจารณาของ กกต.อาจจะขัดกับหลักการของกฎหมายในการรับฟังคำชี้แจงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

 

นายปิยบุตร กล่าวถึงรายละเอียดนายโอนหุ้นของนายธนาธร และ ภรรยาว่า วันที่ 8 ม.ค.62 นายธนาธร และภรรยาได้ดำเนินการโอนหุ้นให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา โดยมีเอกสารคือตราสารโอนหุ้นพร้อมการลงนามรับรองของโรตารี่ พร้อมใบหุ้นรับรองว่าได้มีการโอนหุ้นกันเกิดขึ้นจริง พร้อมเช็คขีดคร่อม และมีการบันทึกลงไว้อยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นสมบูรณ์เรียบร้อย เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1129 วรรค 2 ที่ระบุให้การโอนหุ้น จะมีผลสมบูรณ์เมื่อมีการทำเป็นหนังสือ และมีการลงนามโดยผู้โอนหุ้นกับผู้รับโอนหุ้นและมีหมายเลขหุ้น และวรรค 3 ที่ว่าการโอนเช่นนี้จะนำมาใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภายนอกไม่ได้จนกว่าจะได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ซึ่งในคำพิพากษาศาลฎีกาก็มีการกำหนดเป็นแนวทางไว้แล้ว ว่าเมื่อใดก็ตามที่มีการจดแจ้งในทะเบียนผู้ถือหุ้นแล้ว ถือว่ามีผลต่อบุคคลภายนอกแล้ว จึงชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งคู่ได้ทำการโอนหุ้นสมบูรณ์ มีผลทางกฎหมาย นับแต่วันที่ 8 ม.ค. นายธนาธร จึงไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทวี-ลัคมีเดีย อีกต่อไป

 

ส่วนการไปปรากฏตัวของนายธนาธร ที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่มีการโอนหุ้นนั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนได้อยู่ในเหตุการณ์ โดยนายธนาธร ขึ้นรถกลับมาที่กรุงเทพก่อนในช่วงบ่าย เนื่องจากต้องมาจัดการเรื่องโอนหุ้นนี้ ส่วนตนปราศรัยเลี้ยงเวทีไว้หลังนายธนาธร เดินทางกลับ มีหลักฐานการจ่ายเงินค่าทางด่วนอีซี่พาสชัดเจน ก่อนเดินทางออกจากบ้านไปสนามบินดอนเมืองเพื่อขึ้นเครื่องบินไป จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 9 ม.ค. มีหลักฐานการจ่ายเงินค่าทางด่วนอีซี่พาส และตั๋วเครื่องบิน ทั้งหมดเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างชัดเจน ว่าคืนวันที่ 8 ม.ค. นายธนาธร อยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อทำธุระเรื่องการโอนหุ้นจริง หลังจากนั้นวันที่ 14 ม.ค.นางสมพร ได้โอนหุ้นให้นายทวี และนายปิติ ซึ่งเป็นหลานชาย โดยมีเอกสารหลักฐานเป็นตราสารโอนหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น โดยเหตุผลคือจากเดิมที่ตั้งใจจะปิดบริษัทตั้งแต่ปี 2561 แต่เนื่องจากบริษัทยังมีลูกหนี้ที่หนี้ค้างชำระกับบริษัทอยู่กว่า 11 ล้านบาท นางสมพร จึงทำตามคำแนะนำของฝ่ายบัญชีบริษัท ว่าควรจัดการสะสางเรื่องหนี้สินนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จึงได้โอนหุ้นให้หลานชายเพื่อให้มาทดลองทำธุรกิจด้วย

 

นายปิยบุตร อธิบายต่อว่า จากนั้นในวันที่ 19 มี.ค.ได้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทวี-ลัคมีเดียครั้งที่ 1/62 มีผู้ถือหุ้นเข้าประชุม 10 คน โดยมีผู้ถือหุ้นเข้าประชุมด้วยตัวเอง 4 คน ที่เหลืออีก 6 คนมอบอำนาจให้ผู้ถือหุ้นอีก 4 คนเข้าประชุมแทน โดยวาระการประชุมคือแจ้งการลาออกของนางรวิพรรณ และแจ้งปิดกิจการ เนื่องด้วยฝ่ายบัญชีบริษัทมาตรวจสอบทราบทีหลังว่าหนี้สินที่มีลูกหนี้คงค้างกับบริษัทนั้น เป็นหนี้ NPL คือลูกหนี้หมดศักยภาพในการใช้หนี้แล้ว นายทวี และนายปิติ จึงได้มีการโอนหุ้นกลับมาให้นางสมพร อีกครั้ง เพื่อดำเนินการปิดกิจการ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 โดยมีหลักฐานเป็นตราสารการโอนหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น จากนั้น บริษัทวี-ลัคมีเดีย จึงได้ยื่นสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นตาม บอจ.5 ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในวันที่ 21 มี.ค.โดยเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ระบุให้มีการยื่นปีละหนึ่งครั้ง ภายใน 14 วัน หลังการประชุมผู้ถือหุ้น และที่มีการยื่นในวันที่ 21 มี.ค. ก็เพราะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 มี.ค.เป็นการกระทำที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายทั้งหมด

 

นายปิยบุตร กล่าวว่า ดังนั้น การโอนหุ้นดังกล่าวมีผลทางกฎหมายเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนก็หวังว่าทาง กกต.จะมีความเป็นธรรม และหากพิจารณาตามเอกสารหลักฐานทั้งหมด ควรจะเห็นได้ว่ามีความสมบูรณ์พอแล้วที่จะชี้ว่าเรื่องนี้ไม่มีมูลดังที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ เมื่อทาง กกต.ยังไม่เคยเปิดโอกาสให้พรรคอนาคตใหม่ชี้แจง ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคก็จะขอนำเอกสารทั้งหมดที่ตนชี้แจงในวันนี้ (22 เม.ย.) ไปยื่นให้ กกต.ด้วยตนเอง และหวังว่าทาง กกต.จะรับไว้พิจารณาก่อนที่จะมีการชี้มูลออกมา พรรคสนับสนุนการใช้เสรีภาพของสื่อมวลชน และมีนโยบายหลายอย่างที่จะส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ทั้งนี้ สื่อมวลชนมีหน้าที่ในการเสาะแสวงหาและเผยแพร่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่การเอาข้อเท็จมาขยายความจนสังคมหลงเชื่อว่าเป็นความจริง