เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ศาลแพ่งได้พิพากษาว่า ร้อยตรี สนาน ทองดีนอก ที่เสียชีวิตในระหว่างฝึกหลักสูตรทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (UKBT) รุ่นที่ 11 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2558 เกิดจากความประมาทเลินเล่อในขณะปฏิบัติหน้าที่ของครูฝึก ให้กองทัพบกชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่มารดาและภรรยา

โดยขณะเกิดเหตุ ร้อยตรี สนาน ถูกบังคับให้ว่ายน้ำไป-กลับ ในสระว่ายน้ำ โดยไม่มีการหยุดพักหลาย 10 รอบ ซึ่งเกินกำลังที่ร่างกายจะรับได้ เป็นเหตุให้ร้อยตรี สนาน จมลงไปก้นสระเป็นเวลานาน โดยที่ครูฝึกซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้เข้ารับการฝึก กลับปล่อยปละละเลยไม่เข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

จากการสืบพยานโจทก์และจำเลย ศาลรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า ในวันเกิดเหตุผู้ตายมีอาการเหนื่อยและอ่อนล้า ไม่สามารถว่ายน้ำต่อไปได้ เมื่อผู้ตายเอามือเกาะขอบสระ หัวหน้าชุดครูฝึก กลับใช้เท้าเขี่ยให้ว่ายน้ำต่อ และใช้เชือกสายชูชีพฟาดไปที่ร่างกายของผู้ตายจริง เพื่อให้ผู้ตายว่ายน้ำต่อไป

ประกอบกับผลการตรวจศพของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า “ร้อยตรี สนาน เสียชีวิตจากระบบหัวใจล้มเหลว สันนิษฐานว่าเป็นผลโดยตรงมาจากการจมน้ำ” จากการตรวจสภาพศพภายนอก พบรอยถลอกเป็นเส้นที่บริเวณเอวด้านหลังเหนือสะโพก 2 เส้น ขนาด 2 เซนติเมตร และ 3 เซนติเมตร จึงรับฟังได้ว่าหัวหน้าชุดครูฝึกได้ใช้เชือกฟาดไปที่ร่างกายของผู้ตายจริง

โดยผู้ตายรับราชการทหารต้องมีวินัย เชื่อฟัง และปฏิบัติตามคำสั่งของครูฝึกอย่างเคร่งครัด หากไม่มีการปฏิบัติตามจะถูกลงโทษ จึงเป็นเหตุให้ผู้ตายมีความเคร่งครัดและปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อให้ผ่านหลักสูตรดังกล่าว หัวหน้าชุดครูฝึกรายนี้ได้ฝึกทหารมาหลายหลักสูตร ย่อมทราบว่าแต่ละบุคคลมีขีดความสามารถหรือศักยภาพไม่เท่ากัน

เมื่อเป็นหัวหน้าครูฝึกย่อมมีอำนาจตัดสินใจสั่งให้ยุติการว่ายน้ำได้ แต่กลับยังบังคับให้ผู้ตายว่ายน้ำต่อไป เมื่อเห็นว่าผู้ตายอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถว่ายน้ำต่อไปได้ จนเป็นเหตุให้ผู้ตายจมน้ำและถึงแก่ความตาย อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อในขณะปฏิบัติหน้าที่จำเลยต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ทั้งสอง

ในการฟ้องคดีนี้ มารดาและภรรยาของร้อยตรี สนาน ซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องกองทัพบก นอกจากมีความประสงค์เรียกค่าเสียหายแล้ว ต้องการให้เป็นบรรทัดฐานเพื่อให้กองทัพบกตระหนักและปรับปรุงแก้ไขระบบการฝึกทหารให้มีมาตรฐาน ในการดูแลความปลอดภัยแก่ทหารผู้เข้ารับการฝึกด้วย โดยกองทัพต้องกำกับดูแลทหารทุกระดับไม่ให้ใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียอีก การฝึกทหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะให้มีความแข็งแรง เข้มแข็งนั้น ย่อมกระทำได้โดยไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้เข้ารับการฝึกไม่ว่าหลักสูตรใดๆ ก็ตาม