“ไทยรักษาชาติ” ลั่นเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการเมือง ภายใต้ชื่อ “ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย” เพื่อสื่อสารประชาชน ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ มั่นใจสามารถทำได้ภายใต้กรอบกฎหมาย ส่วนผลคะแนนสวิง เคารพสิทธิ ปชช.ย้ำไม่พูดเหตุการยุบพรรค เป็นเกมการเมืองอีก
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.62 นายจาตุรนต์ ฉายแสง พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร่วมแถลงแนวทางทางการเมือง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ
โดย นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนตั้งใจสื่อสารชี้แจงจะทำต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมามีความตั้งใจทำให้ไทยรักษาชาติ เป็นพรรคที่ทำหน้าที่ทำให้เกิดประชาธิปไตยในบ้านเมือง และหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจเผด็จการ และส่งเสริมตั้งรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งตนรู้สึกเสียดายที่พรรคถูกยุบ และยุติบทบาทของกรรมการบริหารพรรค รวมถึง ส.ส.แบ่งเขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ต้องหยุดสถานะสมาชิกพรรค ทั้งหมดจึงเหลือสถานะประชาชน มีสิทธิในฐานะประชาชน หากจะไปสมัครสมาชิกพรรคและหาเสียงตามที่ กกต.กำหนด
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังพิจารณา ว่า จะมีบทบาทอย่างไรให้เป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ดังนั้นตนและสมาชิกส่วนหนึ่ง จึงมีความเห็นว่า เมื่อมีเจตนารมณ์ชัดเจนทางการเมืองตั้งแต่ต้น แม้ไม่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่จะแสวงหาบทบาททางการเมืองตามจุดมุ่งหมายเดิม โดยจะเปิดเวทีสื่อสารกับประชาชน เพื่อจะใช้สิทธิ์แสดงความเห็นทางการเมือง ร่วมกันทำภารกิจสำคัญตามจุดมุ่งหมาย ตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งจะยืนยันวันและเวลาที่แน่นอนอีกครั้ง ส่วนกรณีมีเสียงเรียกร้องไปสนับสนุนพรรคการเมืองนั้น ต้องประเมินต่อไปและต้องศึกษากฎกติกาของ กกต. ยืนยันว่าทำงานเต็มที่ และไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ โดยคำนึงถึงสถานการณ์และความจำเป็นเป็นหลัก
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการโอนคะแนนไปยังพรรคอื่นๆนั้น ไม่สามารถทำกันง่ายๆ เพราะต้องขึ้นอยู่กับประชาชน ยืนยันอดีตผู้สมัครทษช. ในเขตต่างๆ อาจจะเชิญชวนสนับสนุนพรรคการเมืองรายใดรายหนึ่ง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการตัดสินใจเป็นของประชาชน พร้อมทั้งขอไม่แสดงความเห็นว่า การยุบพรรคครั้งนี้จะเป็นความผิดพลาดหรือไม่ ในการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และไม่ขอตอบว่าเหตุยุบพรรคในครั้งนี้จะกลายเป็นเกมทางการเมืองหรือไม่
ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แม้เส้นทางในสนามเลือกตั้งยุติลงแล้ว แต่เส้นทางต่อต้านรัฐประหารและนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศยังไม่ยุติ และต้องเดินหน้าต่อไป และต้องทำภารกิจร่วมกัน ยืนยันภารกิจครั้งนี้ไม่รวมตัวกลุ่มบุคคล แต่รวมกลุ่มภารกิจ เพื่อทำภารกิจที่ชื่อว่า “ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งการจัดเวทีกิจกรรมทางการเมือง คาดว่าจะจัด 4 เวที 4 ภูมิภาค ส่วนจะจัดเวทีเพิ่มหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนและการสนับสนุน ยืนยันเคารพจิตวิญญาณและความคิดของอดีตสมาชิกพรรคทุกคน
“ภายหลังจากวันนี้ หากมีเหตุผลความจำเป็นต้องปรับรูปแบบภารกิจ ให้สอดคล้องสถานการณ์จะต้องหารือและดำเนินการร่วมกัน หวังว่าประชาชนที่เคยสนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติ จะตอบรับภารกิจนี้ และเดินหน้าพร้อมประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองระบอบประชาธิปไตย และจะไม่รณรงค์โหวตโน เชื่อว่าคะแนนประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนพรรคฝ่ายประชาธิปไตย เอาชนะกติกาฝ่ายเผด็จการได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า กรณีการเลือก ส.ว. ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานสรรหา นั้นมองว่า เป็นกติกาตามรัฐธรรมนูญที่แสดงออกในช่วงเลือกตั้ง ตั้งแต่การเลือกประธานสรรหา และเริ่มเปิดชื่อผู้ที่มาเป็นสว.แล้ว ก็เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตา ทั้งนี้เป็นไปไม่ได้ที่คะแนนจะไม่มาสนับสนุนผู้นำ คสช. ซึ่งก็จะทำให้ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.ได้เปรียบคนอื่นๆ ทั้งนี้ก็ทำให้ประชาชนตัดสินใจ
“เราเชื่อมั่นว่าคะแนนของประชาชน เอาชนะกติกาของฝ่ายเผด็จการได้ หากประชาชนพร้อมใจกันเลือกพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ก็ไม่มีใครขวางกั้นได้ เรายังสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นพรรคประชาธิปไตย หากย้อนกลับไปได้ เรายังคงอยู่พรรคไทยรักษาชาติเราเสียดายที่พรรคถูกยุบ แต่เราไม่เสียดาย ที่เราอยู่พรรคนี้”นายณัฐวุฒิ กล่าว