เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า พบชายชาวอังกฤษซึ่งติดเชื้อ HIV แล้วสามารถรักษาหายได้เป็นรายที่สองของโลก โดยรายงานดังกล่าวมาจากการตีพิมพ์ผลการวิจัยลงในวารสาร Journal Nature เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโดยระบุว่า

เคสที่รักษาหายขาด 1 ราย เคสนั้นเรารู้จักในนาม berlin patient เป็นเคสที่รักษาที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน คนนี้เขาติดเชื้อ HIV และรักษาด้วยยาต้านไวรัส แต่เกิดป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เลยมีการรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ปรากฏว่าหายจาก HIV ด้วยว่ะ ทุกวันนี้เขาอยู่ได้ปรกติโดยไม่ต้องกินยาต้าน แต่วิธีการนี้ไม่ใช่ว่าสามารถใช้ได้กับทุกคน มีหลายๆเคสที่ใช้วิธีเดียวกัน แต่ก็ยังมี HIV อยู่

ปรากฏว่าเราเจอเคสที่สอง ที่เขาเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว และติดเชื้อ HIV ด้วย เขาเข้ารับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จนหายขาดแบบเดียวกับรายแรกเด๊ะ แถมรักษาที่เบอร์ลินเหมือนกันด้วย แล้วการแพทย์เราก้าวหน้าขึ้น จนนักวิจัยเขาศึกษาพบสาเหตุว่า ที่คนไข้คนนี้ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์แล้วหายจาก HIV เพราะเขาได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ที่มียีนส์กลายพันธุ์ตัวหนึ่ง ซึ่งในเซลล์ที่มียีนส์ตัวนี้ เชื้อ HIV จะไม่สามารถเจาะเข้าไปในเซลล์ได้

ด้านนายแพทย์ Ravindra Gupta ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และเป็นหนึ่งในทีมนักชีววิทยาด้านเอชไอวีที่ทำการรักษา“คนไข้ลอนดอน” (The London Patient) รายนี้อธิบายว่า “นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ผู้ป่วยรายนี้จะมีชีวิตรอด ความโชคดีของผู้ป่วยรายนี้คือการได้รับสเต็มเซลล์ของผู้บริจาคที่มีพันธุกรรมที่รู้จักกันในชื่อ CCR5 delta 32 ซึ่งยอมรับการต่อต้านเชื้อเอชไอวี รวมถึงพันธุกรรมดังกล่าวสามารถเข้ากับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี แต่กรณีนี้นับว่าพบได้ยากมากเช่นกัน”

ทั้งนี้ การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ด้วยวิธีข้างต้นนั้นค่อนข้างอันตราย มีความเสี่ยงสูง ราคาแพง และไม่ใช่ว่าจะได้ผลกับผู้ป่วยทุกราย ความสำเร็จครั้งนี้ นับว่าเป็นความหวังและความก้าวหน้าครั้งสำคัญของผู้ติดเชื้อทั่วโลกในการรักษาให้หายขาดต่อไป