เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.ย.60 หลังจากที่ ศาลจังหวัดพังงา ได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติมคดี เด็กวัย 14 ถูกรุมโทรม เพิ่มอีกจำนวน 3 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ ออกหมายจับไปแล้วจำนวน 8 ราย รวมทั้งหมดจำนวน 11 ราย ทั้งนี้ทาง พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผบก.ภ.จว.พังงา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นในพื้นที่ หมู่ 3 ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายรังสันติ์ ชายเลี้ยง อายุ 23 ปี ได้ภายในบ้านพัก, นายสายันต์ หรือ ย้อย สุเมนร์ อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวมาจาก จ.กระบี่ และ นายนาวิก จารึก อายุ 53 ปี ติดต่อขอมอบตัวในวันจันทร์นี้ ตามหมายศาลจังหวัดพังงา ในการเข้าจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำวัตถุพยานที่เก็บได้จากพื้นที่เกิดเหตุ ส่งศูนย์วิทยาศาสตร์ เข้าตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ จนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายก่อน ส่วนอีกหนึ่งราย ต้องรอเข้ามอบตัววันจันทร์ ทั้งนี้ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ และขอสู้คดีในชั้นศาล
พ.ต.อ.สถิตย์ พรหมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย จ.พังงา เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะพนักงานสอบสวน ได้นำภาพผู้ต้องสงสัยจำนวน 6 ภาพ เข้าให้ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้เสียหาย ชี้ตัวเพิ่มเติม โดยพบว่าเด็กหญิงสามารถระบุตัวได้ 3 คน คือ นายรังสันติ์ นายนาวิก และ นายสายัน สุเมนร์ อายุ 43 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และกระทำโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย และเพื่ออนาจาร, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั่นเองหรือของอื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพังงาออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คน
สำหรับกรณีที่ 2 ใน 3 ของผู้ต้องหา ชุดแรกมีปัสสาวะเป็นสีม่วง หลังทำการจับกุม ขณะนี้ได้ส่งปัสสาวะไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสารชนิดใด เมื่อได้ผลกลับมาจะทำการส่งฟ้องดำเนินคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติดอีกข้อหา ส่วนร่องรอยของอุปกรณ์ และยาเสพติด ที่พบเป็นจำนวนมากในบริเวณหมู่บ้าน จนทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นแหล่งมั่วสุม และที่พักยาเสพติดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมขยายผลเข้าจับกุม ซึ่งขณะนี้รู้ตัวผู้เกี่ยวข้องบางส่วนแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความรัดกุมและสั่งฟ้องได้โดยไม่มีข้อครหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมบางส่วนเพื่อเข้าจับกุม โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับฝ่ายปกครองจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบผู้ค้ารายใหญ่ พบเพียงผู้เสพ แต่เคยจับกุมผู้ที่ใช้บริเวณดังกล่าวเป็นทางผ่าน เพื่อขนยาเสพติดหลบเลี่ยงด่านตำรวจท่าฉัตรชัย ของจังหวัดภูเก็ต ขณะเตรียมขนส่งยา และมีการดำเนินคดีไปก่อนหน้าแล้ว
ขณะที่เซฟเฮาส์ที่ครอบครัวของเด็กหญิงอายุ 14 ปี เหยื่อรุมโทรม พักอาศัยอยู่นั้น พบว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านแฝงตัวไปกับกลุ่มคนที่อ้างว่ามีความสนิทกับเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าขอพบกับเด็กและครอบครัวผู้ถูกกระทำ โดยอ้างว่าจะนำสิ่งของมามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ และเยียวยาจิตใจของเด็กและครอบครัวผู้ถูกกระทำ แต่เนื่องจากครอบครัวดังกล่าวอยู่ในการคุ้มครองพยาน กลุ่มคนดังกล่าวจึงไม่สามารถเข้าพบครอบครัวผู้ถูกกระทำได้ ก่อนจะเดินทางกลับ
ที่มา – ไทยรัฐ