เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เว็บไซต์ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า สำนักวางแผนครอบครัวแห่งชาติอินโดนีเซีย ออกมาเผยว่า อินโดนีเซียอาจเผชิญสถานการณ์ เบบี้บูม (baby boom) มีหญิงตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้ากว่า 400,000 คน หลังการล็อกดาวน์เพราะโควิด 19 ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงการคุมกำเนิดได้
ในช่วงที่เมืองถูกล็อกดาวน์จาก COVID-19 คลินิกขนาดเล็กได้ถูกปิดชั่วคราว มีแพทย์และพยาบาลผดุงครรภ์จำนวนจำกัดในการดูแลคนมาใช้บริการ ขณะที่ ฮาสโต วาร์โดโย หัวหน้าคณะกรรมการประชากรและวางแผนครอบครัวแห่งชาติอินโดนีเซีย ชี้ว่า มีหลายคนเลือกจะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล ด้วยการอยู่แต่ในบ้านเว้นแต่จะมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเขาคาดว่าคงมีคนจำนวนมาก ที่ไม่ได้มองเรื่องการคุมกำเนิดเป็นเหตุฉุกเฉิน
ทั้งนี้ คาดว่าในต้นปี 2564 อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก จะได้เห็นทารกเกิดใหม่อีกกว่า 420,000 คน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางหน่วยงานได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปมอบอุปกรณ์การคุมกำเนิดรวมถึงห่วงคุมกำเนิดให้แก่ประชาชนที่ต้องการตามบ้านแล้ว อนึ่ง พบว่าบุคคลที่มีการคุมกำเนิดในอินโดนีเซีย มีถึง 95% ที่เป็นเพศหญิง ส่วนผู้ชายนั้นมีเพียงไม่มากที่จะยอมใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์เพื่อคุมกำเนิด
Cr. ชาแนลนิวส์เอเชีย