เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ธ.ค.61 ที่ร้าน CHASRISUWAN หน้าตลาดยิ่งเจริญ (ประตู 3) สะพานใหม่ ดอนเมือง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอนกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 5 คน ที่เป็นเสียงข้างมาก 5 ต่อ 3 ในการพิจารณากรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ครอบครองนาฬิกาหรูและแหวนเพชรโดยที่ไม่ได้แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิ้นที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ป.ป.ช. วินิจฉัยไม่ถูกต้องและทำให้บรรทัดฐานในการเอาผิดนักการเมือง ที่เข้าข่ายทุจริตคอร์รัปชั่นไม่เป็นไปตามบทบัญญัติกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจ ก็ต้องอาศัยช่องของกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 236 และ 237 ที่กำหนดไว้ ให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 20,000 รายชื่อ สามารถเข้าชื่อเพื่อนำเสนอไปยังประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ตั้งผู้ไต่สวนอิสระขึ้นมา เพื่อเสาะแสวงหาพยานหลักฐาน เอาผิดคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้ง 5 คน ว่าเข้าข่ายใช้อำนาจซึ่งไม่เป็นไปตามกฎหมาย ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือเข้าข่ายประมวลจริยธรรมหรือไม่อย่างไร

ดังนั้นวันนี้ทางสมาคมฯ จึงถือเป็นวันแรกที่จะตั้งโต๊ะให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้มีสิทธิ์ และมีส่วนในการกำหนดมาตรฐานของสังคมไทย และนอกจากจะใช้จุดนี้เป็นจุดให้ประชาชนได้ลงชื่อถาวรกว่าจะครบ 20,000 รายชื่อแล้ว ตนก็จะเดินทางไปยังต่างจังหวัดเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัด ได้มีส่วนร่วมเข้าชื่อในการเอาผิด 5 ป.ป.ช. และคาดว่า ประมาณ 2 สัปดาห์จะได้รายชื่อครบ 20,000 รายชื่อ

โดยเมื่อถามว่า ทำไมถึงถอดถอนเพียง 5 กรรมการป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ป.ป.ช.ทั้งหมดมี 9 คน แต่เสียงข้างน้อยมีแค่ 3 คน ประธานป.ป.ช. ขอถอนตัวจากการร่วมพิจารณา ดังนั้นก็ไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพียง 5 คนเท่านั้น

 

เมื่อถามว่า แต่ประธานป.ป.ช. จะต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบขององค์กรหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คิดว่าอาจจะก้าวไปตรงนั้นไม่ถึงในเรื่องความผิดทางกฎหมาย แต่ในเรื่องความรับผิดชอบนั้น คงไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายมาบังคับ

“ผมคิดว่ามันเป็นสปิริตของประธานป.ป.ช.อยู่แล้ว ว่าจะต้องพิจารณาตัวเอง ในเมื่อสาธารณะชน หรือสังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างมาก และการทำโพลของหลายสำนัก ก็สะท้อนชัดเจนว่าประชาชนร้อยละ 95-96 ที่ไม่เห็นด้วยต่อมติของป.ป.ช.เสียงข้างมาก ดังนั้นการเป็นประธานป.ป.ช. ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมประชุม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่รับผิดชอบใดๆ ดังนั้นจึงเป็นสปิริตของนายตำรวจคนหนึ่ง ที่เข้ามาทำหน้าที่ประธานป.ป.ช. จึงควรแสดงสปิริตอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้สังคมรับรู้และเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และเรียกศรัทธากลับคืนมาสู่องค์กรป.ป.ช.ต่อไป

ผมขอเรียกร้องให้ประธานป.ป.ช.ในฐานะที่จะต้องดูแลองค์กร สร้างภาพลักษณ์องค์กร และสร้างความเชื่อมั่นศรัทธากลับมาให้กับองค์กรนี้ ควรจะแสดงสปิริตอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาให้สังคมไทยได้มีความรู้สึกว่ามีความเชื่อมั่น ว่าองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบให้เป็นที่น่าเชื่อถือต่อไป

แต่ถ้าประธานป.ป.ช.นั่งกอดเก้าอี้แน่น กลัวจะหลุดตำแหน่ง ก็เป็นที่น่าเสียดายว่า สังคมไทยอาจต้องสูญเสียองค์กรอิสระองค์กรหนึ่ง ที่จะไม่ได้รับความเชื่อมั่น เชื่อถือศรัทธาจากประชาชน ไม่ใช่ว่าท่านเป็นองค์กรอิสระแล้วใครจะแตะต้องไม่ได้ การได้รับการตรวจสอบจากประชาชนทั้งประเทศจะเป็นนิมิตหมายทำให้องค์กรอิสระอื่นๆ จะได้ถูกจับตามองโดยประชาชน เพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชนและความเชื่อถือที่มีต่อองค์กรอิสระนั้นๆ” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักโดยมีประชาชนมาร่วมลงชื่ออย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ

โดยนายสุรศักดิ์ ภาษิต อาชีพรับจ้างอายุ 43 ปี เรียนจบกฎหมายมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อถอดถอน กล่าวว่า การที่ผู้มีอำนาจรับสิ่งของแล้วอ้างว่ายืมเพื่อนมามีตัวอย่าง จากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เคยโดนกรณีคล้ายกับกรณีดังกล่าว ในเรื่องของการรับของเพื่อน ซึ่งมีหลักกฎหมายตั้งไว้อยู่แล้ว แต่หากป.ป.ช.พิจารณากฎหมายกลับไปกลับมาอย่างนี้ ในอนาคตข้าราชการหรือนักการเมืองหรือข้าราชการประจำ แล้วบ้านเมืองเราจะอยู่อย่างไรลูกหลานเราจะอยู่อย่างไร นี่คือสิ่งที่ทำให้ตนในฐานะคนเรียนกฎหมายรับไม่ได้

ข้อมูลจาก Klaosod