เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 6 ธ.ค. 61 เวลา 09.00 น. นายศักดิ์ชาย เสตานุช ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีพระลูกวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทะเลชุบศร ได้พาหญิงสาวมาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน.อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองลพบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าหิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองป้องกันอำเภอเมืองลพบุรี

ที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 4 ห้อง 420 ของโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ให้แม่บ้านของโรงแรมเคาะประตูเรียก เพื่อขอเปลี่ยนผ้าปูที่นอน กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 20 นาที จึงมีหญิงสาวเปิดประตูออกมา เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำไปภายในห้องพบ พระบุญส่ง อายุ 46 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่งในต.ทะเลชุบศร นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ มีสีหน้าซีดเผือด

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นยังพบเสื้อชั้นอยู่ในลิ้นชัก ถุงยางอนามัยที่เปิดกล่องซุกซ่อนไว้ใต้เตียง และสมุดบันทึกของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี หญิงสาวที่อยู่กับพระบุญส่ง ซึ่งเขียนพรรณนาในความดี ความรัก และความอาทรของตัวพระบุญส่ง ทั้งนี้ ด.ญ.เอ อยู่ในอาการกระวนกระวาย

จากการสอบปากคำ พระบุญส่ง ให้การปฏิเสธอ้างวกไปวนมา ว่า ได้นำข้าวกับขนมมาให้ด.ญ.เอกินเมื่อเช้า เนื่องจากสงสารเด็กที่รู้ว่าพ่อชอบดุด่า และด.ญ.เอได้หนีพ่อมา ตนจึงเกิดความสงสารและนำสิ่งของเหล่านี้มาให้

ด้าน ด.ญ.เอ ให้การว่า ตนกับพระบุญส่งได้มาเปิดห้องพักตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา และพระบุญส่งได้กลับวัดไปก่อนจะเช้า ก่อนจะนำอาหารกลับมาให้ในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ ได้ถูกพระบุญส่งพามาหลับนอน โดยพระยอมจ่ายเงินให้ครั้งละมากๆ

หลังการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองป้องกันได้นำตัว ด.ญ.เอ ให้พนักงานสอบสวนสอบสวนปากคำ ก่อนส่งตัว ด.ญ.เอไปบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดลพบุรี เพื่อเยียวยาจนกว่าจะทำการสอบสวนพระบุญส่งเพื่อเอาผิดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะที่ ปลัดฝ่ายปกครองป้องกันอำเภอเมืองลพบุรี และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ได้เดินทางมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ห้องดังกล่าว โดยไม่คิดว่าพระภิกษุ จะกล้าพาเด็กหญิงเข้ามาพักในโรงแรงกลางเมืองลพบุรีเช่นนี้ ทั้งที่มีผู้คนสัญจรไปมามากมาย จึงนับว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีไม่งาม ให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง

ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า พระบุญส่ง แก้วแช่ม อายุ 46 ปี ชาวจ.ลพบุรี บวชมาแล้ว 2 พรรษา ซึ่งตอนแรกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคน จ.อุตรดิตถ์ ภายในตัวพบสมุดบัญชีธนาคารมีเงินนับหมื่นบาท และเงินสดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ พร้อมนำตัวพระบุญส่งไปให้อุปัชฌาย์ทำการสึก ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าหิน เพื่อดำเนินคดีตากฎหมายต่อไป