ที่จังหวัดนครปฐม เกิดเหตุพระลูกวัด 2 รูป ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน สาเหตุมาจากแย่งกันเจิมรถป้ายแดงให้กับญาติโยม จนเกิดการกระทบกระทั่ง และทำร้ายร่างกายกัน ขณะที่เจ้าอาวาสวัดเผย พระทั้ง 2 รูปเคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน จึงทำให้เกิดบันดาลโทสะ
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากพระลูกวัดในจังหวัดนครปฐม ไปติดต่องานที่สำนักงานของวัด เพื่อขอนิมนต์พระไปรับกิจนิมนต์ของญาติโยมตามกฎระเบียบของวัด แต่พระเลขาฯ หัวหน้าสำนักงานวัด ที่เป็นคู่กรณีกันได้ปฏิเสธ และบอกว่าไม่มีเหตุผล พร้อมทั้งพูดอีกว่า หากพบเห็นพระรูปใดที่ไปรับกิจนิมนต์ให้พระรูปนี้ จะไม่ให้รับกิจนิมนต์อีกเลย พระลูกวัดรูปดังกล่าวมองว่าเป็นการใช้ตำแหน่งหรืออิทธิพลในทางมิชอบ ทำให้พระรูปอื่นเกรงกลัว จึงได้ติงพระเลขาฯไป ถึงเรื่องการเจิมรถเพื่อเสริมสิริมงคล เนื่องจากพระเลขาฯ ไม่เคยเรียนหรือศึกษาวิธีการเจิมรถที่ถูกต้อง กลับอ้างตัวว่าเป็นพระเจิม
โดยการเจิมรถแต่ละครั้งจะได้ลาภสักการะ จากนั้นพระทั้ง 2 รูป พูดจากระทบกระทั่งและปาข้าวของใส่กัน โดยหลังเกิดเหตุพระลูกวัดจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.โพธิ์แก้ว
นายพรเทพ ปัถวี อายุ 47 ปี ไวยาวัจกรวัด เปิดเผยว่า ทางวัดไม่มีข้อกำหนดเรื่องการเจิมรถ แต่หากประชาชนเข้ามาจะต้องไปติดต่อที่สำนักงานวัด เพื่อขอให้พระที่วัดเจิมรถให้ ส่วนเรื่องการเจิมรถก็ไม่ได้ใช้อำนาจ อิทธิฤทธิ์ หรือปาฏิหาริย์อะไร เป็นเพียงการเจริญพระพุทธมนต์ ท่องบทสวดคาถามงคล และอัญเชิญหลวงพ่อปกปักรักษาคุ้มครองรถ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนขับรถ ไม่ใช่เป็นเพราะการเจิม ซึ่งหากขับรถไม่ปลอดภัย ไม่เคารพกฎจราจร สุดท้ายอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้
ส่วนเรื่องความขัดแย้งของพระทั้ง 2 รูป เรื่องกิจนิมนต์นั้น เกิดจากความไม่เข้าใจกัน เนื่องจากเคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน กระทั่งมาเกิดเรื่องดังกล่าวจนมีปากเสียงกัน ทำให้พระเลขาเกิดบันดาลโทสะขว้างปาสิ่งของออกไป จากนั้นสิ่งของไปกระทบพื้นโดนพระลูกวัด แต่ไม่ได้มีการชกต่อยกันจนได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สำหรับกระทำของพระทั้ง 2 รูป ยังไม่ถือว่ารุนแรงหรือผิดวินัยสงฆ์ ดังนั้นจึงเป็นเพียงแค่การเตือนสติเท่านั้น ไม่ถึงขั้นปาราชิก หรือต้องให้ลาสิกขา ขณะที่วันนี้ พระเลขาคู่กรณีติดกิจนิมนต์ที่ต่างจังหวัด ทางวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ขอบคุณภาพจาก อัมมารินทร์ ทีวี